ประเทศเต็มไปด้วยคำตอบอันปราศจากคำถาม
วีรพร นิติประภา
ถ้ามีเงิน ฉันก็เป็นคนดีได้มากกว่าคนพวกนี้อีก
คือวรรคทองในหนังดังเรื่อง Parasite ตอนผู้หญิงคนจนตอบผัวที่เอ่ยปากชมผู้หญิงร่ำรวยเจ้าของบ้านว่าเป็น “คนดี”
ประโยคที่ว่าก็ผุดขึ้นในหัวซ้ำ ๆ มาหลายวันนับแต่เหตุการณ์ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ เมื่อรัฐบาลเปิดให้ประชาชนที่ไม่มีสมาร์ทโฟนมาลงทะเบียนรับเงินเยียวยา และมีประชาชนเรือนล้านซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุดั้นด้นจากทั่วทุกสารทิศไปออมุงรอบ ๆ ธนาคารกรุงไทยสาขาต่าง ๆ บางแห่งหลักหลายพัน บางแห่งอาจถึงหมื่น ยืนเข้าคิวตากแดดกันตั้งแต่เช้ายันเย็นบางที่ บางที่ก็ลากยาวไปจนสามสี่ทุ่ม จนเกิดสภาพแออัดกับอลหม่านอย่างที่ทุกคนทราบ
เรื่องนี้ขอตำหนิรัฐบาลก่อนใคร เห็นได้ชัดว่าไม่ได้มีการวางแผนรองรับจัดการมหาชนที่จะมารวมตัวนี้ล่วงหน้าเลย ทั้ง ๆ ที่มีตัวเลขในมือพอจะประเมินจำนวนคนและสถานการณ์ได้ มิหนำซ้ำนี่ยังไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนมาขอรับเงินเยียวยา ตอนระบาดรอบแรกสภาพการณ์ก็เละเทะประมาณเดียวกันนี้มาแล้ว
ทางธนาคารกรุงไทยที่รับไม้ต่อจากหน่วยงานรัฐบาลมาจัดการก็ทำงานขอไปที ไม่จัดระเบียบ ดูแลที่ทางให้เพียงพอ ปล่อยประชาชนมุงออแออัดจนจะสร้างคลัสเตอร์แพร่ระบาดใหม่ทั้งใหญ่น้อยไปในตัวรอมร่อ พนักงานที่ส่งมาดูแลก็น้อย เพราะถ้ามีพอรองรับก็คงไม่หนาแน่นยาวนานเช่นนี้ มิหนำซ้ำบางที่พอรับไม่ไหวก็ขึ้นป้าย “เต็ม” ไล่คนให้ไปลงทะเบียนที่สาขาอื่นดื้อ ๆ เสียอย่างนั้นก็มี ทั้ง ๆ ที่ไม่ต้องคิดให้เปลืองสมองก็รู้ว่าคนจำนวนมากต้องเดินทางไกลอาจหลายสิบกิโลมาเพื่อขอรับเงินจำนวนน้อยนิดนั้น…แทบไม่มีเงินจะกินข้าวอยู่แล้วด้วยซ้ำ อย่าว่าแต่จะมีเงินมาใช้จ่ายร่อนเร่พเนจรไปโน่นมานี่
เรื่องสะเทือนใจใหญ่หลวงจนเป็นข่าวคือหญิงสูงวัยคนหนึ่งชื่อคุณยายสา ที่ร้องห่มร้องไห้ออกสื่อกับให้สัมภาษณ์ด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจว่าถูกพนักงานธนาคารพูดจาไม่ดีกับตะคอกใส่ ปฏิบัติกับแกประหนึ่งแกเป็นก้อนหิน ไร้หัวจิตหัวใจ
คนไม่ยากจนน่ะไม่รู้หรอกว่า คนจนมีความคับแค้นทับถมล้นหัวใจอยู่แล้วแค่ไหน
มาถึงตอนนี้ไหนจะไม่มีงานทำ ไม่มีเงิน จะบากหน้าหยิบยืมใคร…หันมองไปลำบากยากจนเสมอกันทั้งบาง สิ้นไร้ไม้ตอกไม่มีหนทางจะไปไปหมด ชีวิตผ่านมาหรือก็บัดซบอยู่พอแรง และยิ่งบัดซบหนักขึ้นไปอีกเมื่อให้ต้องมายืนแออัดรอกลางแดดครึ่งค่อนวันจนเป็นลมล้มลงต่อหน้าก็หลายคน พอมาโดนตะคอกซ้ำก็เป็นธรรมดาที่คุณยายจะเสียอกเสียใจหนัก หากใครได้ดูคลิปก็จะเห็นแกร้องไห้ตัดพ้อต่าง ๆ นานา น่ารันทดใจนัก
ในแง่หนึ่ง ก็ต้องให้ความยุติธรรมกับคุณพนักงานคนนั้น แน่นอนว่าคนจำนวนมหาศาลคงไม่ได้น่ารักกับคุณพนักงานกันทุกคนเหมือนกัน ต้องมียื้อแย่ง แซงคิวอลหม่านชุลมุน มีบ่น มีด่า มีเหวี่ยงใส่เขาหรือหล่อนนำกันตั้งแต่เช้าก่อนจะมาถึงคุณยายสาบ้างล่ะ หลังอดกลั้นมาสักระยะคุณพนักงานก็คงฟิวส์ขาดขึ้นมา และเลขก็มาออกเอาที่คุณยายสาพอดี
กลับไปที่ธนาคาร เรื่องนี้ก็ต้องตำหนิร่วมไปด้วยกับการจัดการพื้นที่ด้วย ทางหน่วยงานเองควรต้องฝึกอบรมพนักงานมาดีกว่านี้ ตั้งกฏเหล็กเข้มงวดให้ต้องรับรองผู้คนอย่างมีมารยาท มีน้ำอดน้ำทน ต้องอธิบายซ้ำ ๆ ก็ต้องทำและต้องทำอย่างสุภาพ อีกทั้งคอยดูว่าแจกงานให้พนักงานเกินกำลังหรือไม่ แต่ที่สำคัญเหนืออื่นใด…หน่วยงานต้องสอนพนักงานให้มองเห็นคนเท่ากัน
ที่ต้องพูดอย่างนี้เพราะต่อให้เหนื่อยหน่ายปางตาย…คุณพนักงานคนนั้นก็คงไม่พูดจาสามหาวตะโกนเหวี่ยงใส่เจ้านายของตัวเอง เขาหรือหล่อนจะไม่ตะคอกลูกค้าที่ใส่สูทผูกไทด์ แต่งตัวดีมีเพชรมีทองใส่ จะไม่กรรโชกระบายอารมณ์กับคนในเครื่องแบบหรือคนที่เขาคิดว่าเหนือกว่า หากกลับกลายเป็นว่าเขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้และฟิวส์ขาดก็แต่กับชาวบ้านที่แลดูไม่มีฐานะ การศึกษา อำนาจ วาสนา คนที่ดูอ่อนแอกว่า อ่อนด้อยกว่า หรือแก่ชราอย่างคุณยายสา
อีกอย่าง คนที่มาออมุงอลหม่านเหล่านั้นไม่ถูกถือเป็นลูกค้า ไม่ได้ทำประโยชน์ให้ธนาคาร…เป็นแค่คนมาลงทะเบียนรับสิทธิ์เอาเงิน หรือพูดอีกอย่าง คือถูกเข้าใจว่ามาขอเงิน
ประการหลังนี้ถือเป็นความผิดเต็ม ๆ ของรัฐบาล ที่เลือกใช้วิธีการที่ทำให้ประชาชนคนยากถูกมองว่ามาขอเงิน ทั้งที่ในความเป็นจริงมันไม่ใช่ เงินเยียวยานั่นไม่ใช่เงินของพนักงานแม้เขาจะเป็นคนดูแลตรวจสอบการสั่งจ่าย และเงินเยียวยานั่นไม่ใช่เงินของธนาคารกรุงไทย และไม่ใช่เงินของรัฐบาลด้วยซ้ำ แต่เป็นเงินของประชาชน ประชาชนมาขอรับสิทธิ์พึงมีของตน สิทธิ์ที่จะเข้าถึงเงินภาษีที่เขาจ่าย ภาษีที่รัฐบาลมีหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญต้องจัดสรรดูแลประชากรที่เปราะบางให้อยู่รอดได้ในสภาวะการณ์ยากลำบาก และอย่างทั่วถึง
อ่านมาถึงตรงนี้คงเข้าใจว่าทำไมประเทศที่เจริญรัฐบาลเขาถึงปกป้องศักดิ์ศรีพลเมืองโดยเลือกวิธีโอนเงินเข้าบัญชี แทนที่จะให้ลงทะเบียนบ้า ๆ บอ ๆ ผ่านสมาร์ทโฟน เสร็จก็ต้องมาเก็บตกคนที่ไม่มีด้วยการปล่อยให้มาออมุงกันในสภาพประหนึ่งขอทาน สุ่มเสี่ยงต่อการถูกดูถูกและรองรับอารมณ์ รวมทั้งยังสร้างสภาพเหมาะสมแก่การแพร่ระบาดเพิ่มไปอีกเปล่า ๆ ปลี้ ๆ
แต่สิ่งที่ถูกมองข้ามมากที่สุดในเหตุการณ์นี้คืออำนาจนิยม
อำนาจนิยมที่แพร่อยู่ในสังคมของเราเหมือนเชื้อโรค กดทับกับแพร่ระบาดลงมาเป็นทอด ๆ คนในสังคมของเราสามารถใช้อำนาจข่มเหงกดดันคนอื่นเป็นปกติโดยไร้ความละอายรู้สึกผิด ทำให้คนทุกคนพร้อมจะแสดงอำนาจเท่าที่ตนมี แม้จะน้อยนิดกับคนอื่น ๆ ต่อไปเป็นทอด ๆ คุณพนักงานคนนั้นก็เป็นแค่คนตัวเล็ก ๆ ในองค์กร เขาหรือเธอไม่ได้ร่ำรวยสุขสบายมีกินมีใช้มากมาย แค่ทำงานตามคำสั่ง ถูกกดทับบั่นทอนโดยคนที่เหนือกว่ามาตลอด และแน่นอนว่าการต้องมารับหน้าคนเป็นพันเป็นหมื่นตามที่นายสั่งวันนั้นก็ไม่ได้ช่วยให้เขามีรายได้เพิ่มขึ้นจากงานปกติที่รับหน้าคนไม่กี่คนต่อวันแต่อย่างใด
ในประเทศเหลื่อมล้ำหนัก ๆ ความรายได้ต่ำ ความงานหนัก ความอดอยากยากแค้น ไร้ความหวัง จมปลักกับชีวิตบัดซบจะทำให้คนจะหันมารังแกกันเองในระดับต่าง ๆ ในที่สุด
ที่เศร้ากว่าเศร้า…คนจนจะรังแกได้ก็แต่คนจนด้วยกัน ทั้ง ๆ ที่สังคมเหลื่อมล้ำต่างหากที่นำมาซึ่งความลำบากยากจนและชีวิตเต็มไปด้วยความกดดัน หลายเดือนก่อนก็มีอีกข่าว เป็นหญิงสาวยืนร้องไห้ด้วยความเจ็บใจ เพราะแกงถุงที่วางไว้ทิ้งไว้ในตะแกรงหน้ารถจักรยายยนตร์ตอนเข้าไปซื้อของในร้านสะดวกซื้อถูกคนขโมยไป คนจนมีปัญญาแค่ฉกชิงสิ่งของเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้อยราคาจากกันและกัน คนจนขโมยจากคนจนด้วยกัน เบียดเบียนทำร้ายได้แค่คนใกล้ตัว ครอบครัว เพื่อนฝูง และคนจนในละแวกเสื่อมโทรมด้วยกัน พวกเขาไม่มีปัญญา กระทั่งจะเฉียดกรายเข้าไปใกล้ให้ระคายสายตาคนร่ำรวยด้วยซ้ำ
ความเหลื่อมล้ำกดทับไม่พอ มันยังสร้างช่องว่างถ่างกว้างปกป้องคนรวยด้วย คนจนอดหิวและแทะกินกันเองในในรูปแบบต่าง ๆ ในความมืดห่างไกลจากคนรวย ปล่อยให้คนสำคัญ ๆ จากแวดวงต่าง ๆ มีพื้นที่กล่าวโทษพวกเขาว่าเป็นต้นตอของความเสื่อมทราม ให้พื้นที่คนในอำนาจพล่ามพร่ำเรื่องอันตรายของความเกียจคร้าน ก่นด่าสังคมเสื่อมศีลธรรม ไร้คุณธรรม ผู้คนที่ขาดเป็นทาสอบายมุข กับไร้ความพยายามทั้ง ๆ ที่ก็เช่นเดียวกันกับคุณพนักงาน พยายามหนักกว่าเดิมก็ยังคงมีรายได้เท่าเก่า
แค่จะบอกว่าหากจะต้องตำหนิสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างการลงทะเบียนรับเงินเยียวยาซึ่งยังไม่แน่ว่าจะได้รับเงินกันทุกคนที่มาและจะได้เมื่อไหร่สองสามวันนั้น ขอให้ตำหนิรัฐบาลที่ทำงานไม่เป็น คิดไม่รอบคอบ ไม่ปกป้องประชากร ขอให้ตำหนิธนาคารที่ทำงานเหมือนเด็กเล่นขายของ ตำหนิระบบที่กดทับคนลงมาเป็นทอด ๆ ตำหนิสังคมเหลื่อมล้ำที่มีช่องว่างเวิ้งว้างไพศาลหว่างชนชั้น
ถ้ามีเงิน มีข้าวกิน มีชีวิตที่ดี ไม่ต้องลำบากยากจน แก่งแย่งดิ้นรน…คนทุกคนก็จะเป็นคนดีทั้งนั้น
ดีได้มากกว่าปูชนียคนดี ๆ ที่มีชีวิตอยู่มาสุขสบายแต่ต้น และสังคมต่างชื่นชมทั้งหลายด้วย