รัฐบาล(กระจก)เงาของคนไร้บ้าน - Decode
Reading Time: < 1 minute

ประเทศเต็มไปด้วยคำตอบอันปราศจากคำถาม

วีรพร นิติประภา

ปัญหาคนไร้บ้านเป็นปัญหาเรื้อรังที่พบเจอในทุกเมืองใหญ่ทั่วโลก

ปฐมเหตุหลัก ๆ มาจากความยากจน ค่าแรงต่ำที่สวนทางกับค่าครองชีพและราคาที่อยู่อาศัยในเมืองที่สูงเกินไป การโยกย้ายถิ่นฐานเข้ามาทำงานในเมือง รวมถึงปัญหาเฉพาะหน้าต่าง ๆ เช่นความขัดแย้งในครอบครัว ความรุนแรงในบ้าน การตกงาน  ความไม่ต้องการเป็นภาระของคนอื่น

นอกจากนี้ยังรวมถึงผู้มีปัญหาทางจิต ทั้งจากปัญหาชีวิตรุมเร้าและการใช้ยาเสพติด  ทั้งขาดการรักษาเหมาะสมหรือเข้าไม่ถึงการรักษา จนฟั่นเฟือนและสูญเสียความจำ  และคนสูงอายุที่มีอาการสมองเสื่อมด้วย

ยิ่งกว่านั้น คนไร้บ้านอีกจำนวนไม่น้อยที่เป็นคนต่างจังหวัดเข้ามาทำงานในเมือง มีรายได้ แต่มีความจำเป็นต้องยึดถนนเป็นที่พำนักเพื่อเอาเงินที่หาได้ทั้งหมดส่งเสียเลี้ยงดูครอบครัวที่บ้านเกิดก็มีไม่น้อย

ที่น่าตกใจคือมีคนที่ออกมาเร่ร่อนเพราะที่ไม่สามารถเช่าที่พักอาศัยเนื่องจากไม่มีบัตรประชาชน หลายคนออกจากบ้านมาเป็นคนเร่ร่อนตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็ก ทั้งจากพลัดหลง และหนีจากความรุนแรงในครอบครัว  หลายคนไม่เคยรู้จักบ้านในรูปแบบอื่นนอกจากถนนด้วยซ้ำ ทำให้ไม่มีที่อยู่และครอบครัวอ้างอิง และทำบัตรประชาชน ไม่สามารถหางานที่ดีพอและได้รับค่าแรงอย่างเป็นธรรม หรือเข้าถึงการศึกษา และสวัสดิการน้อยนิดแห่งรัฐ รวมทั้งไม่สามารถเช่าห้องที่อยู่อาศัยได้ 

ปัญหาคนไร้บ้านจะมีความรุนแรงมากอย่างเห็นได้ชัดในประเทศที่รัฐสวัสดิการต่ำ และผู้คนร่วงหล่นไร้การรองรับอย่างประเทศเรา

เมื่อมาถึงวิกฤตโควิด ปัญหาที่รุนแรงอยู่แล้วก็ยิ่งทวีความรุนแรง จำนวนคนไร้บ้านเพิ่มขึ้นหลายเท่าอย่างเห็นได้ชัดตามถนนหนทาง จากคนจำนวนมากที่ต้องตกงาน  หลายคนที่มีปัญหาครอบครัวรุมเร้าอยู่ก็มาถึงจุดแตกหักเมื่อต้องมากักตัวร่วมกันในที่แคบ ๆ หลายคนเข้ามาทำงานและอาศัยอยู่ในเมืองนานจนไม่เหลือความเชื่อมโยงใด ๆ กับบ้านเกิด และไม่มีที่ทางที่อื่นที่จะไปนอกจากหาทางอยู่รอดต่อในเมืองต่อแม้ไม่มีงานทำ

จนวิกฤติผ่านพ้น หลายคนยังอายุมากจนเมื่อหลุดออกจากระบบแรงงานก็ยากที่จะกลับเข้าไปใหม่ได้ หลายคนยังตกค้างอยู่บนถนน

ที่ผ่านมาการเรามักมีแนวคิดเพียงว่าจะทำอย่างไรให้คนเหล่านี้หายไปจากถนนหนทาง จะกำจัดผู้คนที่แลดูซอมซ่อไม่สบายตา ดูยากจนจนไม่สบายใจว่าอาจก่ออันตรายจี้ปล้นข่มขืนเหล่านี้ออกไปจากเมืองศิวิไลซ์นี้ได้อย่างไร

แทนที่จะหันมาทำความเข้าใจ ว่าด้วยความซับซ้อนนานาประการของการเป็นคนจน โดยเฉพาะคนจนเมือง เรื่องไม่ได้ง่ายเช่นนั้น และมีคนมากมายแค่ไหนที่การไร้บ้านเป็นความจำเป็น ไม่ทางกาย ใจ ก็ทางสังคม …และไม่ใช่ทางเลือก ขณะเดียวกันเมืองใหญ่ซึ่งมีผู้คนจำนวนมากอาศัย มีกิจการร้านรวง มีความอุดมสมบูรณ์และทรัพยากรเหลือใช้เหลือมากพอที่ไม่ว่าคนจะยากจนแค่ไหนก็ยังสามารถอยู่รอดได้ ต่อให้ไม่มีคุณภาพชีวิตใด ๆ เลยก็ตาม

จากการติดตามการทำงานของ ’มูลนิธิกระจกเงา’ ทำให้มองเห็นวิธีคิดอีกแบบ สิ่งสำคัญจริง ๆ เกี่ยวกับปัญหาคนจรไร้บ้าน คือการบริหารจัดการคนเหล่านี้ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีพอและอยู่อย่างมีศักดิ์ศรีต่างหาก

แน่นอนว่าการช่วยให้คนไร้บ้านมีความสามารถในการยืนให้ได้ด้วยตัวเองเป็นโจทย์อันดับต้น ๆ และวิธีการทำให้ปัญหาการไร้งานเบาบางลงคือสร้างงาน หางานที่รองรับได้ตามความสามารถที่จำกัดกว่าไม่ว่าจะอายุ ความทุพพลภาพไม่สมบูรณ์บางอย่าง ซึ่งทางมูลนิธิฯ ก็ได้ทำริเริ่มโครงการอย่าง ‘จ้างวานข้า’ ซึ่งเป็นตัวแทนหางานที่ไม่ต้องการทักษะหรือพละกำลังให้กับคนไร้บ้านสูงอายุ

รวมทั้งยังมีโครงการช่วยฝึกทักษะเสริมให้คนไร้บ้าน อย่างงานซ่อมแซม สิ่งของต่าง ๆ อย่างโต๊ะเก้าอี้ไปจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ซับซ้อนอย่างคอมพิวเตอร์ด้วย จากนั้นก็รับบริจาคสิ่งของไม่ใช้แล้วหรือขยะที่จะทิ้งจากตามบ้าน เอามาให้คนไร้บ้านซ่อมแซมและเอาไปขายสร้างรายได้

นอกจากนี้ยังรับแจ้งเรื่องคนไร้บ้านวิกลจริต ส่งทีมลงพื้นที่ ติดตามนำตัวส่งโรงพยาบาลให้เข้าถึงการรักษา และยังติดตามหาครอบครัวเพื่อส่งคืนด้วย

รวมทั้งยังมีอีกโครงการที่น่าสนใจและดูเหมือนไม่เกี่ยวกันแต่เกี่ยว คือโครงการติดตามผู้สูญหาย ซึ่งบ่อยครั้งก็พบว่าคนหายจากครอบครัว ไม่ว่าจะสมองเสื่อมหรือวิกลจริตก็คือคนที่กลายมาเป็นคนไร้บ้านนั่นเอง สำหรับคนหาเช้ากินค่ำ เมื่อมีคนในครอบครัวหายไป มันแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะมีเวลาและปัจจัยเงินทองออกติดตามหา และทำได้มากที่สุดก็คือไปแจ้งความ ซึ่งก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก การสร้างเครือข่ายติดตามตัวและช่วยประกาศหาเบาะแสช่วยให้โอกาสพบตัวคนหายมีสูงมากขึ้นมาก

อีกเรื่องที่น่าสนใจมากคือการจัดสถานที่ให้คนไร้บ้านได้อาบน้ำ สระผม และซักเสื้อผ้า  ถ้าจำไม่ผิดจะมีอาสาสมัครมาให้บริการตัดผมตัดเผ้าให้ด้วย ความลำบากที่สุดเมื่อไม่มีบ้านคือการไม่มีสุขอนามัยพึงมี ซึ่งทำให้ชีวิตเร่ร่อนซึ่งลำบากอยู่แล้วเสี่ยงต่อการเจ็บป่วย และต้องถูกดูหมิ่นและรังเกียจทับถมเพิ่มขึ้นไปอีก การช่วยให้คนเร่ร่อนไร้บ้านเข้าถึงสุขอนามัยพื้นฐานยังช่วยให้คนเหล่านี้มีโอกาสได้งานทำได้มากขึ้นด้วย

และเมื่อคนไร้บ้านสามารถมีอาชีพ มีรายได้  พวกเขาก็สามารถมีห้องเช่า ไม่มีใครอยากอยู่บนถนนอลหม่านหลับนอนท่ามกลางที่โล่งกว้างไร้ความปลอดภัยหรอก   

แต่หลายคนก็ยังคงมีปัญหา ไม่อาจเช่าอยู่ที่ไหนได้เนื่องจากไม่มีบัตรประชาชน  หลายคนไม่มีบัตรประชาชน หลายคนไม่มีมาตั้งแต่ต้นด้วยเหตุที่ออกมาเป็นคนเร่ร่อนตั้งแต่อายุยังน้อย หลายคนทำบัตรหาย  หลายคนออกจากบ้านมานาน ครอบครัวโยกย้าย หลายคนมีปัญหากับครอบครัว ไม่สามารถบากหน้าไปขอให้ครอบครัวยืนยันตัวตน ด้วยเหตุต่าง ๆ นานาทำให้หลายคนไม่มีที่อยู่อ้างอิงเพื่อทำบัตร เมื่อไม่มีบัตรก็ไม่อาจเช่าที่พัก วนไปวนมา

ที่สำคัญเมื่อไม่มีบัตรประชาชน คนเหล่านี้ยังไม่สามารถเข้าถึงสิทธิ์แห่งการเป็นประชากรอื่น ๆ รวมถึงสิทธิ์รับการรักษาพยาบาลด้วย ซึ่งเรื่องนี้ทางมูลนิธิฯ ยังมีทีมเป็นธุระติดตามจัดการแก้ไขให้ได้มีบัตรประชาชน และยังช่วยเรื่องการเช่าอยู่ ไม่ว่าจะห้องพักราคาถูก การสำรองให้ก่อนสำหรับคนที่ถูกไล่จากห้องเช่า เพื่อป้องกันคนไม่ให้ออกมาเป็นคนไร้บ้านและเร่ร่อนแต่ต้น

จะเห็นว่าปัญหาคนไร้บ้านเป็นปัญหาที่ซับซ้อน และเกี่ยวข้องกับปัญหาอื่น ๆ อีกมากมาย และการแก้ไขก็ต้องไม่ทำแค่เอาคนออกจาถนนเท่านั้น หากยังต้องการการบริหารจัดการ สร้างเสริมความสามารถที่จะหยัดยืนได้อย่างสง่างามด้วยตัวเอง เชื่อมโยงคนกลับเข้าไปกับชีวิตของตัวเอง 

และที่สำคัญทำให้เขามีศักดิ์ศรี และตระหนักในศักดิ์ศรี คนย่อมต้องการที่ทางที่เป็นสัดส่วนของตัวเองทุกคน และเราต้องทำให้สิ่งนี้เป็นไปได้

หากจะทำบุญปีใหม่ ขอให้พิจารณาบริจาคสนับสนุนการทำงานที่หลากหลายและครอบคลุมทุกมิติของการเป็นคนชายขอบ ของมูลนิธิกระจกเงาค่ะ เป็นมูลนิธิฯ ที่มีความคิดน่าทึ่งมาก