จดหมายถึงลูกสาวฉบับที่ 2 : มีผู้คนต่อสู้มาก่อนเรา เจ็บช้ำมาก่อนเรา และพวกเขาทำให้เรามีวันนี้ - Decode
Reading Time: < 1 minute

ประกายไฟลามทุ่ง

รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี

จดหมายฉบับที่สองก่อนที่พ่อจะได้เจอหน้าลูกสาวของพ่อ ลูกจะได้เกิดและเติบโตมาในโลกที่มีหลากหลายความหมาย โลกที่บางมุมก็สวยงามและมหัศจรรย์ แต่ก็มีอีกหลายมุมที่ลูกอาจฉงนสงสัยว่า ในโลกที่สวยงามขนาดนี้เหตุใดยังมีความโหดร้ายระหว่างกันมากมาย

ในความขัดแย้งนี้สิ่งที่พ่ออยากจะบอกลูกคือ โลกมนุษย์เราเคยมีช่วงเวลาที่เลวร้ายไม่ว่าพวกเราจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ เราสร้างความอดอยากขึ้นท่ามกลางความอุดมสมบูรณ์ สร้างความยากจนขึ้นมาท่ามกลางความร่ำรวย เราสร้างยารักษาโรคมากมายที่ทำให้ชีวิตมนุษย์ยืนนานเพิ่มได้หลายสิบปีพร้อม ๆ กับสร้างอาวุธสงครามที่คร่าชีวิตมนุษย์นับแสนได้ในไม่กี่วินาที และมนุษย์เราก็ก้าวพ้นความขัดแย้งเหล่านี้ได้ ไม่ได้เกิดขึ้นโดยคนที่มีสติปัญญาปราดเปรื่อง นักรบที่กล้าหาญ หรือเศรษฐีคนใด แต่มันเกิดจากการส่งเสียงของคนธรรมดา ที่ไม่ยอมจำนนต่อความไม่เป็นธรรม

ก่อนหน้านี้ มนุษย์แบ่งแยกกันด้วยสีผิวและชาติกำเนิด คนสีผิวหนึ่งไม่ได้รับการคุ้มครองด้วยหลักการที่เท่าเทียมกัน ไม่ถูกคำนึงว่าเป็นมนุษย์ พวกเขาทำงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง ถูกกังขังเหมือนสัตว์เลี้ยง และไม่มีสิทธิ์เสียงในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความเป็นไปของสังคมที่พวกเขาอยู่ พ่อไม่ได้จะบอกลูกว่าสิ่งเหล่านี้ได้หายไปหมด มนุษย์ยังคงแบ่งแยกกดขี่ระหว่างกัน เมื่อครั้งที่มนุษย์ต่อสู้เพื่อการเลิกทาส ยังมีนายทุนจำนวนมากบอกว่าเศรษฐกิจจะล้มละลายถ้ามีการเลิกทาสและทำให้ทุกคนได้รับค่าจ้างที่เป็นธรรมรวมถึงมีสิทธิเสมอภาคกับเหล่านายทาส ถ้าเราใช้หลักเศรษฐศาสตร์กำหนดความเป็นไปของโลก เรายังคงมีทาสอยู่

การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้ไม่ได้เกิดจากการคำนวณแต่เกิดจากการยืนยันต่อสู้ของคนธรรมดาที่ไร้อำนาจ ใช้วิธีที่สันติอารยะขัดขืนบ้าง และบางครั้งพวกเขาก็เดิมพันด้วยชีวิตของพวกเขาในการยืนยันสิทธิที่พวกเขาควรมีตั้งแต่แรก พวกเขาทำให้เราสามารถมีชีวิตที่ดีได้ในวันนี้

มนุษยชาติดูเหมือนจะฉลาดกว่าสิ่งมีชีวิตอื่น แต่ก็มีบางเรื่องที่พวกเขาโง่เง่ามาหลายศตวรรษ มนุษย์ที่ไม่ใช่เพศกำเนิดชายเพิ่งจะมีโอกาสที่เสมอภาคกันหน้าคูหาเลือกตั้งเมื่อไม่ร้อยกว่าปีมานี่เอง การเลือกปฏิบัติสำหรับเพศหญิง และคนที่มีเพศสภาวะไม่ตรงกับเพศกำเนิดเคยเป็นเรื่องรุนแรงในศตวรรษที่แล้ว มีหลายคนที่เสียชีวิตและถูกทำร้ายโดยกระบวนยุติธรรมอย่างเป็นทางการของรัฐ รวมถึงศาลเตี้ยของระบบชายเป็นใหญ่เพียงแค่พวกเขามีความปรารถนาในชีวิต และวิถีทางเพศที่แตกต่างไป แต่การต่อสู้ของคนธรรมดาที่ไร้อำนาจ ผลักดันให้ความเท่าเทียมกันเป็นเรื่องปกติ ทำให้ผู้หญิงธรรมดาสามารถที่จะท้าทาย มีความรักได้อย่างเสรี เมื่อสมัยพ่อเด็ก ๆ คำว่า “ชายแท้” หรือ “ชายชาตรี” เป็นคำที่ถูกใช้ในความหมายที่ดี และเป็นคำที่ครอบครัวคาดหวังให้ผู้ชายเป็น ในยุคสมัยที่ลูกจะเติบโต “ชายแท้” คือที่สะท้อนปัญหาของความเหลื่อมล้ำ ในการบอกว่ามีเพศหนึ่งที่เหมาะกับอาชีพ สถานะ หรือการรับผิดชอบใด ๆ มากกว่าอีกเพศหนึ่ง และการเป็นชายแท้ ไม่ใช่แค่ผิด “กาลเทศะ” แต่คือผิดต่อหลักการความเสมอภาคทางเพศ ที่มนุษย์รุ่นแล้วรุ่นเล่าพยายามต่อสู้มาตลอด ไม่ว่าจะเป็นคุณย่าของลูก อาของลูก-น้องสาวของพ่อ หรือแม้แต่แม่ของลูกเอง ผู้หญิงที่ลูกรู้จักกลุ่มแรก ๆ ในชีวิตของลูก คือคนที่ได้ต่อสู้มาทั้งในทางตรงและทางอ้อม เพื่อให้คนเท่ากัน แม้ในสังคมนี้ที่ยังไม่เสมอภาคทางเพศแบบสมบูรณ์ แต่ลูกเองก็ได้ดอกผลจากการต่อสู้ของคนรุ่นก่อนแน่นอน

พ่อมีโอกาสขับเคลื่อนประเด็นทางสังคมหลากหลาย ทุกประเด็นที่พ่อได้ร่วมขับเคลื่อนพ่อจะรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้ง เพราะมันคือเครื่องหมายของการปรารถนาสังคมใหม่ที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ คนงานโรงงานเย็บผ้าที่พวกเขาใส่เสื้อผ้าซ้ำ ๆ และไม่มีเงินซื้อชุดนักเรียนให้ลูกแม้พวกเขาจะเย็บผ้าให้โรงงานหลายร้อยหลายพันตัว พวกเขากล้าที่จะรวมตัวกันเพื่อเรียกร้องค่าแรงที่เป็นธรรม ค่าชดเชยที่ถูกต้องยุติธรรม ต่อหน้าบริษัทที่มีทนายนับสิบ มูลค่าหลายพันล้าน

พ่อมีโอกาสเห็นนักศึกษาจำนวนมหาศาลที่ไม่มีทรัพยากรมากมายแต่หาญกล้ามากกว่านักการเมืองหลายคนในรัฐสภาเพื่อยืนยันการต่อต้านรัฐบาลอำนาจนิยม พ่อเห็นคนจำนวนมหาศาลที่มีชีวิตที่ยากลำบากพวกเขาใช้หยดน้ำตาและชีวิตของพวกเขายืนยันเรื่องรัฐสวัสดิการ ต่อสู้เพื่อให้คนเท่าเทียมกันให้มากที่สุด

แม้พวกเขาจะมีชีวิตที่ยากลำบากถูกโจมตีมากมายอย่างไม่เป็นธรรม แต่พวกเขาก็ทำให้โลกนี้ดีขึ้น พ่อเห็นนักวาดการ์ตูนตั้งสหภาพแรงงานสร้างสรรค์ตั้งแต่อายุ 20 เห็นสหภาพกลุ่มไรเดอร์ที่ไม่มีค่าจ้างและสวัสดิการที่แน่นอนนัดหยุดงานเพื่อต่อรองคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แม้พวกเขาจะไม่ได้ดอกผลจากมันโดยตรง แต่พวกเขาเลือกที่จะส่งต่อจินตนาการให้คนรุ่นถัดไปได้เห็นว่ามันมีสิ่งที่เป็นไปได้มากกว่าสังคมที่เราคุ้นชิน

พวกเขาต่อสู้กันมาก่อนลูกเกิด ยังคงต่อสู้อยู่ พวกเขาอาจพ่ายแพ้ ล้มเหลว ผิดหวัง ถูกเย้ยหยัน แต่พวกเขาคือป้ายบอกทางของสังคม ที่ไม่ว่าจะมีคนสนใจหรือไม่ ป้ายบอกทางก็ยังเป็นสิ่งจำเป็นในการบอกว่าสังคมเราควรจะเป็นไปในทางใด