ประเทศเต็มไปด้วยคำตอบอันปราศจากคำถาม
วีรพร นิติประภา
จากกรณีคุกคามล่วงละเมิดทางเพศของ ’รองหัวหน้าพรรค’ ที่กำลังเป็นข่าวดัง มีคนจำนวนมากพูดถึงเรื่องนี้เชื่อมโยงกับการไม่สามารถหักห้ามความต้องการทางเพศ และความล้มเหลวในควบคุมตัวเอง ซึ่งทำให้มองข้ามและไม่เห็นมิติอื่น ๆ เกี่ยวกับการข่มขืนและเหยื่อไปด้วย
ตอนเห็นข่าว สิ่งแรกที่ผุดขึ้นในห้วงคิดคือนักร้องโปรดคนสองคน Chester Bennington นักร้องนำวง Linkin Park กับ Doroles O’Riordan นักร้องนำวง Cranberries เรื่องของทั้งคู่คือโศกนาฏกรรมที่คล้ายคลึงและน่าเศร้ามาก ทั้งสองถูกล่วงละเมิดทางเพศตั้งแต่ตอนยังเป็นเด็ก เก็บประสบการณ์เลวร้ายเป็นความลับ มุมานะฟันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ จนกลายมาเป็นศิลปินระดับแนวหน้าของโลก กระนั้นทั้งสองก็ยังต้องต่อสู้กับความป่วยไข้ทางใจยาวนานอันเนื่องมาจากการถูกข่มขืนครั้งนั้น แต่ในท้ายที่สุดก็ไม่อาจชนะ และฆ่าตัวตายในช่วงปีที่ไม่ห่างกันมากนัก
การถูกล่วงละเมิดทางเพศไม่ได้เป็นแค่เป็นประสบการณ์เลวร้ายสุดทน การสูญเสียอำนาจในเรือนร่างยังทำลายความเป็นคนของเราลงไปด้วย เหยื่อหลายคนต้องทุกข์ทรมานมากเสียจนต่อให้ผ่านไปครึ่งค่อนชีวิต ต่อให้ประสบความสำเร็จจนถึงขีดสุด ต่อให้มีทุกสิ่งทุกอย่าง เงินทอง หน้าตาชื่อเสียง ได้ทำในสิ่งที่รัก กระทั่งมีแฟนคลับนับร้อยล้าน ได้รับความรักมากมาย มีครอบครัว พวกเขาก็ยังไม่สามารถตระหนักในคุณค่าของตัวเอง และมีความสุขได้อีกเลย
คนมักมองเห็นแค่การบาดเจ็บทางกายภาพ หลายครั้งการบาดเจ็บจากการถูกข่มขืนนั่นก็หนักหนาสาหัสเกินจินตนาการ เหยื่อหลายคนมีแผลฉีกขาดยับเยินจนเกินจะซ่อมแซมให้กลับไปดังเดิมได้ หลายคนเลือดออกจนตาย หลายคนอวัยวะภายในเสียหายจนไม่สามารถมีลูก หลายคนบอบช้ำมีปัญหาสุขภาพเรื้อรัง และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเหยื่อจะหลงรักคนร้ายภายหลังอย่างที่ชอบเล่าในละครไทยหลังข่าว
กระนั้น การคุกคาม ลวนลาม ล่วงละเมิดทางเพศรูปแบบต่าง ๆ ทั้งที่ยังไม่ถึงขั้นข่มขืนหรือมีการสอดใส่ หรือบางที่บางคดียังไม่นับเป็นการข่มขืนด้วยซ้ำหากใช้อวัยวะส่วนอื่นอย่างนิ้วมือหรือสิ่งของล่วงล้ำ หรือล่วงล้ำอวัยวะอื่นที่ไม่ใช่อวัยวะเพศ กลับไม่ถูกถือเป็นการประทุษร้ายร้ายแรงและมีโทษเท่าการข่มขืน ทั้ง ๆ ที่ทุกระดับของการล่วงละเมิดสามารถส่งผลต่อจิตใจเหยื่อได้แทบไม่ต่างกันเลย
…มันคือการเหยียดกดและลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ของคนลงจนไม่เหลือ
การถูกล่วงละเมิดทำให้เหยื่อรู้สึกว่าตนเป็นสัตว์หรือสิ่งของใช้สอย ไร้ค่า เจ็บปวด และพังทลายได้อย่างไม่น่าเชื่อ และที่ร้ายที่สุด การคุกคามล่วงละเมิดมักถูกกระทำโดยคนใกล้ชิด หรืออย่างน้อยโดยคนที่เหยื่อเชื่อถือไว้วางใจ ไม่เพียงแต่นี่จะทำลายความเชื่อมั่นความเป็นมนุษย์ของตัวเองเท่านั้น มันยังทำลายความไว้วางใจที่คนคนหนึ่งมีต่อมนุษย์คนอื่นลงไปด้วย
คนเราจะมีชีวิตต่ออย่างไรเมื่อไม่สามารถไว้เนื้อเชื่อใจใครเลย ความหวาดระแวงถึงขั้นชิงชังที่มีต่อมนุษย์ด้วยกันรักษายากมาก เยียวยาให้หายยากมาก หลายครั้งเหยื่อจะไม่สามารถกระทั่งไว้ใจจิตแพทย์หรือนักบำบัดด้วยซ้ำ
นี่คือสิ่งที่ถูกมองข้ามเกี่ยวกับการล่วงละเมิด
ส่วนตัวมองการล่วงละเมิดควรถูกมองแยกจากเรื่องเพศ …การลวนลามไม่ใช่การเล้าโลม การข่มขืนก็ไม่ใช่การมีเพศสัมพันธ์ และการคุกคามไม่ใช่การแสวงหาความพึงพอใจทางเพศ ในหลาย ๆ ครั้งมันไม่กระทั่งเป็นเรื่องเพศด้วยซ้ำ แต่เป็นเรื่องของอำนาจล้วน ๆ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการถูกกระตุ้นโดยการแต่งตัวของเหยื่อ ไม่เกี่ยวกับการไม่อาจหักห้ามความต้องการทางเพศ ไม่เกี่ยวกับการไม่สามารถควมคุมตัวเองของคนร้าย คนทุกคนมีความต้องการทางเพศแต่มีคนบางคนเท่านั้นที่ข่มขืน
และเขากระทำ …เพียงเพราะเชื่อว่าเขาทำได้
ในกรณีนักข่มขืนต่อเนื่องจะมองเห็นเรื่องนี้จะได้ชัดเจนมาก หลายคนสามารถสร้างความสนิทสนม สร้างความประทับใจ จีบหรือให้ท่าเหยื่อ เพื่อโน้มน้าวให้มีสัมพันธ์ทางเพศด้วยกันอย่างยินยอมได้ ในหลาย ๆ เคส เช่นเดียวกับเคสรองหัวหน้าพรรคที่กำลังเป็นข่าว …ผู้ก่อเหตุยังเป็นมีสถานะดีทางสังคม มีชื่อเสียงเงินทอง หน้าตาถึงขั้นจัดได้ว่าหล่อเหลา มีทุกอย่างพอจะดึงดูดผู้หญิงคนไหนให้ขึ้นเตียงด้วยก็ได้ไม่ยาก หรือหากจะซื้อหาจัดจ้างก็สามารถหาผู้มีอาชีพบริการที่สวยงามระดับไหนแบบไหนก็ได้ จะตกลงกันให้อีกฝ่ายรับบทเหยื่อหรือบทอะไร หรือแต่งตัวแบบไหน เพื่อกระตุ้นจินตนาการทางเพศส่วนตัวก็ได้ ไม่ได้มีความจำเป็นแม้แต่น้อยที่จะต้องลงมือประกอบอาชญากรรม
จริงอยู่ว่าการล่วงละเมิดจริงจัง…จริงจังกว่า ทั้งการได้บังคับ ข่มเหง รังแก ทำร้าย แต่เหนืออื่นใดมันคือการได้ข่มขู่ให้เหยื่อกลัว และจำนนอย่างที่สุดจนไม่กล้ากระทั่งเอาผิดภายหลังต่างหาก นี่คือความอำเภอใจ…ไม่ต่างจากชี้เป็นชี้ตาย คือความสามารถที่จะสังหารคนทั้งเป็น คือการถืออำนาจสูงสุดที่สามารถล้มล้างอำนาจเหนือเรือนร่าง และหลังจากนั้น…อำนาจเหนือชีวิตของคนคนนั้น
ด้วยอำนาจทำลายล้างความเป็นมนุษย์นี้เองที่การข่มขืนยังถูกใช้เป็นอาวุธร้ายแรงในสงคราม
ช่วงไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมายังมีรายงานการข่มขืนประชาชนหลายร้อยโดยทหารรัสเซียในระหว่างการยึดครองเมืองหลาย ๆ เมืองในยูเครน ชวนให้นึกถึงการข่มขืนฆ่าครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ทหารญี่ปุ่นกระทำผู้คนระหว่างการยึดครองนานกิงในประเทศจีนเมื่อแปดสิบกว่าปีที่แล้ว รวมทั้งข่าวคราวการข่มขืนเป็นระยะที่ทหารพม่ากระทำต่อชนกลุ่มน้อยต่าง ๆ และการข่มขืนที่เกิดขึ้นตลอดเวลาในระหว่างสงครามน้อยใหญ่ที่ไม่เคยสงบในกลุ่มประเทศแอฟริกาในหลายต่อหลายปีที่ผ่าน
นี่ห่างไกลจากเรื่องความต้องการทางเพศมาก
นอกเหนือจากคุกคามข่มขู่สร้างความหวาดกลัว การล่วงละเมิดยังทำให้คนจำนน ล้มเหลวในความเป็นมนุษย์ มันทำลายความมุ่งมั่น กล้าหาญ พร้อมเผชิญลง ยิ่งกว่านั้นการปราศจากความไว้เนื้อเชื่อใจในมนุษย์คนอื่นยังทำให้สังคมอ่อนแอ ความหวาดระแวงสามารถสั่นคลอนความเป็นชนชาติ ลดทอนความเข้มแข็งของชุมชน เมือง และประเทศ
เรียกได้ว่าเป็นการตัดกำลังที่ทรงพลานุภาพร้ายกาจที่สุด
การข่มขืนเป็นเรื่องเลวร้ายมากกว่าที่คิดกัน และเป็นเรื่องที่สังคมจำเป็นต้องสนใจ ติดตาม ถกเถียงจริงจัง เพื่อนำไปสู่ความเข้าใจในด้านที่กว้างและลึก และไม่ควรถูกมองเป็นเรื่องพื้น ๆ ด้วยกรอบแคบ ๆ ในแง่การพ่ายแพ้ต่อความต้องการทางเพศหรือสัญชาตญาณดิบของการเป็นมนุษย์
…แต่เท่านั้น