ประเทศเต็มไปด้วยคำตอบอันปราศจากคำถาม
วีรพร นิติประภา
หลายปีที่ผ่านมา ประเดี๋ยวก็ได้ยินข่าวทหารเบ่งบ้าง ตำรวจกร่างบ้าง ทะเลาะก็ใช้กำลัง ไม่มีเหตุอะไรก็ชักปืนมายิงขึ้นฟ้าเอามันซะงั้นก็บ่อย ไม่อย่างนั้นก็มีข้าราชการมาพูดจาข่มขู่คุกคาม ไม่อายฟ้าอายดินที่โน่นที่นี่
ส่วนใหญ่มักไม่ใช่ตำรวจทหารหรือข้าราชการระดับสูง เป็นบุคลากรระดับกลาง ๆ เสียมากกว่า
ตอนยังเด็ก ๆ เติบโตในช่วงเวลาของจอมพลประภาส จารุเสถียร และจอมพลถนอม กิตติขจร สังคมเราก็เป็นแบบนี้ค่ะ กร่างกันเป็นเอิกเกริก ประเจิดประเจ้อ เดินวางก้าม พูดจาใหญ่โตโอ่ระคนข่มไปทั่วทุกหนทุกแห่ง คนกลัวตำรวจและทหารลามไปถึงคนในเครื่องแบบอื่นๆ กันมาก ผิดหูผิดทางมีเรื่องกันขึ้นมา ก็จะถูกกลั่นแกล้งจับขังรังแกตามอำเภอใจ ประชาชนในตอนนั้นดูจะยอมรับว่า การที่ทหารตำรวจเบ่งกร่างอ้างนายกันนั้นเป็นเรื่องธรรมดา
แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดา ยิ่งในเวลาปัจจุบันยิ่งไม่ธรรมดา และจะต้องไม่ถูกถือเป็นเรื่องธรรมดา
หลายต่อหลายปีหลังๆ มานี้ โดยเฉพาะทหารยิ่งจะใหญ่โตกว่าทุกคนในโลกหล้าถึงขั้นพลั้งมือสังหารคนและครอบครัวก็มาก เร็วๆ นี้ก็เพิ่งมีข่าวนายทหารบุกชกหน้าเพื่อนบ้าน ชกเขาจากนอกรั้วไม่พอ ยังปีนเข้าไปรัวชกเขาต่อถึงในบ้านทั้ง ๆ ที่เพื่อนบ้านตนนั้นไม่ได้ต่อสู้ หรือกระทั่งพูดด่าตอบโต้ ภรรยาคนเจ็บเข้ามาห้ามช่วยสามี ยังโดนบีบคอเอาอีก เรื่องนี้จะเป็นมาอย่างไร จะไปอย่างไร นายทหารคนนั้นก็ผิด
แล้วถามว่าทำไมคนในเครื่องแบบที่กร่างๆ กันอยู่นี้ ถึงไม่กลัวมีความผิด ที่ใช้ตำแหน่งหน้าที่มาข่มเหงรังแกประชาชน ทำไมการเบ่งกร่างของตำรวจ ทหาร ข้าราชการชั้นกลางๆ จึงเบ่งบานในรัฐบาลทหาร ที่พูดนี้ไม่ได้หมายความว่าไม่มีกรณีเบ่งกร่างในรัฐบาลพลเรือน มีเหมือนกันแต่ไม่พร่ำเพรื่อนัก ปริมาณน้อยกว่า ความรุนแรงต่ำกว่า
รัฐบาลพลเรือนคือรัฐบาลที่ต้องผ่านการเลือกตั้งเข้ามา ต้องได้รับฉันทามติ ประชาชนต้องเห็นความดีความงาม เห็นคุณสมบัติ ความสามารถ เข้ามาได้ก็ต้องผ่านระบบตรวจสอบที่เข้มแข็งเพราะมีอีกหลายพรรคที่ต้องการทำลายความน่าเชื่อถือทำให้ต้องปฏิบัติงานอย่างซื่อตรง สร้างความดีความชอบ ถ้าทำผิดหัวหน้ากระทรวงทบวงกรมก็จะรีบเอาผิดลงโทษเพื่อไม่ให้เสื่อมเสียเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เพื่อคราวต่อไปสส.ของพรรคจะได้รับคัดเลือกให้กลับเข้ามาเป็นรัฐบาลอีก และเมื่อไม่เป็นสิ่งที่ทำกันได้พร่ำเพรื่อจนเป็นธรรมดา การเบ่งกร่างวางอำนาจจึงถูกมองว่าเป็นเรื่องต่ำเกียรติ น่ารังเกียจน่าอายไปโดยปริยาย
กลไกทางจริยธรรมก็เกิดขึ้น
ขณะที่รัฐบาลทหารซึ่งชัดเจนว่าเข้ามาโดยไม่ผ่านการเลือกตั้ง ไม่ได้รับฉันทามติหรือหากเข้ามาก็โดยการเลือกตั้งก็ใช้กลไกอื่นๆ ช่วย การที่จะรักษาอำนาจที่ไม่เข้มแข็งมั่นคงแบบนี้ให้อยู่ได้ รัฐบาลทหารจำเป็นต้องสร้างระบบปิดและรวมศูนย์ ต้องสร้างระบบเส้นสายเครือข่ายพวกพ้องพร้อมๆ กับต้องกำจัดคนที่สนับสนุนคนที่ไม่ใช่พวกด้วย
เมื่อเป็นเช่นนี้เรื่องความรู้ ความสามารถ การปฏิบัติงานดีตามหน้าที่ก็เป็นอันตกไป กลายเป็นใครพวกใคร คนของใครลูกน้องของใคร สายไหน
ยิ่งกว่านั้น คนในสายที่สนับสนุนตนให้อยู่ในอำนาจยังจำเป็นต้องได้รับการคุ้มครองให้สะอาด รอดพ้นจากผิดบาปทั้งปวง นอกจากจะไม่สนใจคุณสมบัติและมีระบบตรวจสอบต่ำมาตั้งแต่ต้น ด้วยความจำเป็นที่ต้องมีคนในองค์กรสนับสนุนจำนวนมากก็ทำให้ต้องละเว้นไม่เอาผิดคนของตนอีกเพราะต้องทำให้เหล่าผู้สนับสนุนตนแลดูเป็นคนดี ไม่เสื่อมเสียด่างพร้อยอันจะบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชนซึ่งก็น้อยอยู่แล้วลง จนต่อให้ทำผิดทำไม่ดีก็ต้องออกมาปกป้อง ด้วยเหตุนี้จึงมีคนจำนวนมากในรัฐบาลทหารทำอะไรมักไม่ค่อยมีผิด
ซ้ำร้ายกว่านั้น การจะเอาคนที่ไม่ใช่พวกตนออกได้ ยังจำเป็นต้องโยกย้าย ดอง และต้องหาเหตุมาใส่ร้ายป้ายสี ยัดเยียดข้อหา กดขี่รังแกให้ตกต่ำมัวหมองจนในที่สุดก็จะเหลือแต่พวกตนพวกเดียวที่ไม่เอาผิดตรวจสอบฟ้องแจ้งจับกัน
เห็นหรือยังว่าคอรัปชั่นจึงสะพรั่งบานรวดเร็วราวกับดอกเห็ดหน้าฝนในรัฐบาลทหาร
ตามมาติดๆ คือสังคมคนทำชั่วได้ดี – คนทำดีได้ชั่วซึ่งผลัดสมัยเข้ามา ไม่พอยังลุกลามออกไปราว ไฟไหม้ลามทุ่งไปทุกหย่อมหญ้า จากผู้ใหญ่ในรัฐบาลลงมาระดับกลาง ลงมาระดับล่าง ลงมาจนถึงอำเภอ จากนั้นก็ไล่ออกไปถึงครูใหญ่ ไปที่ครูในโรงเรียน จากกรมไปกองไปหน่วยงาน บริษัท ห้าง ร้าน ไปถึง รปภ.ที่ดูแลกำกับพื้นที่จอดรถเล็กๆ ในห้าง ถึงบ้านที่มีพ่อแม่ทำอะไรก็ได้ไม่ผิด ไปถึงการบูลลี่กันของเด็กๆ ในโรงเรียน
ใครพอจะมีอะไรให้ยกตนข่มใครได้ก็ทำโดยจะมีประโยคหลักๆ อยู่เช่น รู้มั้ยกูเป็นใคร ใครเป็นนายกู เรากำลังสร้างสังคมที่ไม่มีทางเป็นสังคมเจริญได้ไม่ว่าทางไหน สังคมที่มีแต่คนประจบสอพลอ ใส่ร้ายป้ายสี เล่นพรรคเล่นพวก หน้าไหว้หลังหลอก จากประเทศที่ทุกคนเคยใฝ่รู้ ซื่อสัตย์ ทำงานตามหน้าที่ รู้จักพัฒนาตน เป็นคนมีความคิดริเริ่ม มีฝีมือ มีความคิดสร้างสรรค์
ในเวลาแค่ไม่กี่ปีเรากำลังจะกลายเป็นประเทศห่วย ๆ ที่เต็มไปด้วยคนเฮงซวยนิสัยไม่ดี
และทั้งหมดก็มาจากการที่เราปล่อยให้ฉันทามติของประชาชนถูกล้มล้าง แค่จะบอกว่าในที่สุดไม่ช้าก็เร็วรัฐบาลทหารก็ต้องสิ้นสุดลง เปิดทางให้ผลัดเปลี่ยนตามวาระ เป็นสัจธรรม
แต่การแก้ไขวัฒนธรรมสังคมและทัศนคติอำนาจนิยม อาจใช้เวลาอีกหลายชั่วคนทีเดียว