บทกวีโดย…ชบาแดง
อีกหน…เหล่าทรชนปล้นฟ้า
ถนนทุกสาย
ตั้งแต่กะฉิ่นถึงตะนาวศรีแตกระแหง
รอยเท้าของพลที่ย่ำไปย่ำมา
ฝากความหวังรังรองใดไว้บ้าง
เว้นแต่เพียงเศษซากโศกเศร้า
เย้ยหยันประเทศ
อีกหน…นกเมียนมาท้วงคืนผืนฟ้า
จากทุกทิศโผบินรวมเป็นฝูง
กู่ก้องไล่เหล่าพลทรชน
กลับกรมกลับกอง
นำหวังจรัสแสง
กอบกู้เศษซากประเทศ
อีกหน…เสียงปืนดัง ปัง ปัง…….ไม่ขาดสาย
นกเมียนมาถูกสอยจากหนหาวทีละตัว สองตัว
เรือนร่างอันอาจหาญ
กองจนจวนจะสูงเทียมเขาคากาโบราซี
ขณะเลือดบริสุทธิ์ไหลลงอิรวดีจนแดงก่ำ
พลันตัวใดไม่สิ้นลมในบัดดล
พลทรชนจะจับถอนขน
จนขาดไร้อิสรภาพ
อีกหน…นกแผ่นดินอื่น(แกล้ง)ไม่เห็น ไม่ยิน
เก็บความห่วงใยแห่งสำนึกไว้ใต้แผ่นลิ้น เฉยชา
เงียบงันเสียงตะโกนเคียงข้าง
แม้มีบ้างจากนกบางตัว
แต่คงเบาเกินกว่าจะปลุกองค์การรักศานติ
ให้ตื่นจากฝันหวาน กระนั้นหรือ
อีกกี่หน…ต้องร่ายบทกวีถึงเมียนมา
ให้หนนี้สิ้นสุดเสียโดยเร็ว
และเป็นหนสุดท้ายจะได้ไหม
ฝูงนกเมียนมาจะโบยบินกลับรัง
แม้หลงเหลือเพียงเศษซากเบื้องหน้า
ต่อแต่นั้น…ด้วยหัวใจไม่สยบยอม
เชื่อว่าคงมุ่งมั่นสร้างใหม่ได้ในเร็ววัน
ขอศานติประสบแก่…นกทุกตัวที่ยืนหยัดเพื่อประชาธิปไตย