Columnist

“ปรากฏการณ์กำนันนก” ประวัติศาสตร์ฉบับย่อของรัฐกับผู้มีอิทธิพลในสังคมไทย

Reading Time: < 1 minute บรรดาผู้มีอิทธิพลเหล่านี้ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ แต่ใช้ความเข็มแข็งเด็ดขาดและบารมีส่วนตัวในการทำให้ชาวบ้านเคารพยำเกรงรวมถึงเชื่อถือศรัทธา กล่าวง่าย ๆ ว่าผู้มีอิทธิพลใช้ทั้งพระเดชและพระคุณในการสร้างอิทธิพลของตนเองที่อยู่เหนือการกำกับควบคุมของรัฐขึ้นมา 

รศ.ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ

ปริศนาความรุนแรงโดยรัฐไทย (ตอนที่ 2)

Reading Time: 2 minutes ในความเคลื่อนไหว รศ.ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเมืองในสังคมไทยตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา การชุมนุมของประชาชนบนท้องถนนกลายเป็นปรากฏการณ์ปรกติของสังคมไทย ในด้านดีการชุมนุมแสดงออกทางการเมืองของประชาชนถือเป็นชีพจรที่เข้มแข็งของประชาธิปไตย เพราะสะท้อนถึงความตื่นตัวของประชาชนที่ต้องการเข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางบ้านเมือง และยังสะท้อนถึงความเป็นพลเมืองที่แข็งขัน อันเป็นหัวใจของสังคมการเมืองแบบประชาธิปไตย สิ่งที่น่าเสียดายและยังคงเป็นปัญหาเรื้อรังในสังคมไทย คือ ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในห้วงสถานการณ์การชุมนุมของประชาชน ซึ่งมีทั้งรูปแบบที่เป็นการปะทะกันระหว่างขบวนการประชาชนต่างอุดมการณ์ และความรุนแรงจากรัฐ โดยจากสถิติในช่วงเกือบ 2 ทศวรรษที่ผ่านมาพบว่าความรุนแรงทางการเมืองที่นำไปสู่การบาดเจ็บสูญเสียของชีวิตผู้คนมากที่สุด คือ ความรุนแรงโดยรัฐในการการสลายการชุมนุมของประชาชน (state repression) บทความในตอนที่แล้ว ผมชี้ให้เห็นว่าปัจจัยเรื่องระบอบการเมืองและความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับกองทัพ (รวมถึงกลไกด้านความมั่นคงทั้งหลาย) เป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดแบบแผนและระดับความรุนแรงโดยรัฐในสังคมไทย แต่ข้อค้นพบอีกประการจากงานวิจัยพบว่ามุมมองของรัฐต่อผู้ชุมนุมทั้งระดับผู้วางแนวนโยบายและระดับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ ส่งผลสำคัญต่อระดับความรุนแรงของรัฐที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งมุมมองของรัฐต่อผู้ชุมนุมถูกกำหนดมาจากยุทธวิธีการเคลื่อนไหวและแนวคิดของผู้ชุมนุมแต่ละกลุ่มที่แตกต่างกันไป ฉะนั้นการพิจารณามุมมองของรัฐ จึงแยกไม่ออกจากการวิเคราะห์ทำความเข้าใจวิธีการเคลื่อนไหว และอุดมการณ์ทางการเมืองของขบวนการประชาชน สันติวิธี-รุนแรง ผู้มีอำนาจรัฐและเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบดูแลการชุมนุมมองผู้ชุมนุมแต่ละกลุ่มไม่เหมือนกัน จากการรวบรวมข้อมูลเอกสารและการสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่รัฐ พบว่ารัฐมีวิธีคิดในการแบ่งประเภทผู้ชุมนุมกลุ่มต่าง ๆ ออกเป็น 2 ประเภทหลัก โดยใช้เกณฑ์ 2 ประการด้วยกัน คือ หนึ่ง พิจารณาว่าวิธีการเคลื่อนไหวว่าเป็นแบบแนวทางสันติหรือมีแนวโน้มใช้ความรุนแรง และสอง อุดมการณ์หรือเนื้อหาของข้อเรียกร้องว่าเป็นเรื่องปากท้องหรือเรื่อง “การเมือง” และในกลุ่มที่เป็นการเมืองก็ยังพิจารณาต่อไปว่าเป็นการเมืองที่มีเป้าหมายมุ่งไปที่การประท้วงรัฐบาล หรือมีเป้าหมายเปลี่ยนโครงสร้างอำนาจและท้าทายไปถึงสถาบันทางการเมืองที่สำคัญสูงสุดต่อชาติและความเป็นไทยซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐเน้นไปที่สถาบันกษัตริย์ แน่นอนว่าการแบ่งประเภทผู้ชุมนุมของเจ้าหน้าที่รัฐเช่นนี้เป็นการแบ่งโดยใช้คำว่า “การเมือง” ในความหมายแคบ […]

รศ.ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ
รศ.ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ

ปริศนาความรุนแรงโดยรัฐไทย (ตอนที่ 1)

Reading Time: 2 minutes รัฐบาลแต่ละยุครับมือกับการแสดงออกทางการเมืองของประชาชนด้วยแนวทางและระดับความเข้มข้นที่ต่างกันออกไป มีทั้งการใช้มาตรการทางกฎหมาย การเจรจา การหาทางออกผ่านกระบวนการทางการเมือง รวมถึงการใช้ความรุนแรงอย่างเด็ดขาดในการสลายการชุมนุม ซึ่งส่งผลให้เกิดความสูญเสียต่อทรัพย์สิน ร่างกาย และชีวิตของประชาชน

รศ.ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ
รศ.ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ

เก่า ใหม่ ซ้าย ขวา ในสนามการเมืองไทย

Reading Time: 3 minutes “ประจักษ์ ก้องกีรติ” การเมืองไทยในสายตาที่ยาวขึ้น ยืนระยะหลังเลือกตั้ง 2566 ใน 9 เทรนด์ใหญ่ที่อาจจะไม่เปลี่ยนแปลง ไล่เรียงตั้งแต่ผู้เล่นกระแสหลักในการเลือกตั้งครั้งหน้าคู่แข่ง (competitor) ไม่จำเป็นต้องเป็นศัตรู (enemy) ไปจนถึงประเด็นการเมืองแนวอุปถัมภ์ท้องถิ่นยังไม่ล้มหายตายจาก แต่ไปต่อลำบาก

รศ.ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ
รศ.ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ

“อเมริกาแทรกแซงไทย” ความเชื่อ ความจริง ความลวง

Reading Time: 2 minutes เหตุใดจึงมีความพยายามผลิต เผยแพร่ และโหมกระพือทฤษฎีสมคบคิด (conspiracy theory) ดังกล่าวในระยะเวลานี้ที่การเมืองไทยกำลังอยู่ในช่วงเวลาของการตั้งรัฐบาลใหม่หลังการเลือกตั้ง และการปลุกกระแส “อเมริกาแทรกแซงไทย” เอื้ออำนวยให้กลุ่มการเมืองใดได้ประโยชน์ และจะส่งผลกระทบอย่างไรต่อความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับสหรัฐและประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค

รศ.ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ
รศ.ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ

สิ้นสุด 2 ขั้ว 2 พรรค สู่ยุคใหม่ของระบบการเมืองไทย “หลายพรรคและแตกต่าง”

Reading Time: 2 minutes ระบบพรรคการเมืองของไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่นั่นเองที่เป็นระบบพรรคการเมืองหลายพรรคที่มีความต่างทางอุดมการณ์และนโยบาย (multi-party system with ideological difference and policy platforms) ซึ่งแตกต่างจากการเมืองไทยในยุคก่อนหน้านี้

รศ.ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ
รศ.ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ

ความเปลี่ยนแปลงอย่างแรงกล้า ในห้าประการจากการเลือกตั้ง66

Reading Time: 2 minutes 5 ข้อสังเกตเบื้องต้นบางประการเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 2566 นี้ ว่าสถิติตัวเลขต่างๆ สะท้อนให้เราเห็นอะไรบ้างในการเมืองไทยและสังคมไทย

รศ.ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ