รศ.ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ, Author at Decode
Columnist

อ่านประวัติศาสตร์และการเมืองไทยปี 2566 ผ่านหนังสือ 10 เล่ม

Reading Time: 4 minutes มีหนังสือที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของประชาชนครั้งประวัติศาสตร์นี้ออกมาหลายเล่ม ในขณะที่หนังสือที่เกี่ยวข้องกับบทบาทของกองทัพ และประวัติศาสตร์สยามช่วงรอยต่อของการเปลี่ยนผ่านจากรัฐสมัยเก่าสู่รัฐชาติและความทันสมัยก็ถือเป็นธีมที่โดดเด่นของวงการหนังสือประวัติศาสตร์สังคมการเมืองในปีนี้

รศ.ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ

บัวโนสไอเรสถึงอัมสเตอร์ดัม เมื่อคลื่นเอียงขวายังพัดแรง

Reading Time: < 1 minute ที่ว่าสั่นสะเทือนเพราะผลการเลือกตั้งนั้นออกมาอย่างผิดความคาดหมาย นักการเมืองและพรรคการเมืองที่มีแนวคิดเอียงขวาสุดโต่งทั้งมีท่วงท่าทางการเมืองแบบแหกคอกนอกขนบกลายเป็นฝ่ายชนะการเลือกตั้ง

รศ.ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ
รศ.ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ

50 ปีระบอบถนอม: นายพล สงครามเย็น และประชาธิปไตยแบบไทย ตอนที่ 2

Reading Time: < 1 minute ในตอนที่แล้ว ผมเขียนถึงประเด็นสำคัญจากหนังสือเนื้อในระบอบถนอม ที่เป็นผลงานการค้นคว้าโดยอาจารย์ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ ไปแล้ว 3 ประเด็นว่าด้วยรอยต่อที่ไม่แนบสนิทระหวางรัฐบาลของสองนายพล คือ สฤษดิ์ ธนะรัชต์กับถนอม กิตติขจร ประเด็นความไม่เป็นเอกภาพในกองทัพ และประเด็นคณะรัฐประหารกับการสืบทอดอำนาจผ่านการเลือกตั้ง ในตอนที่สองซึ่งเป็นตอนจบนี้จะว่าด้วยประเด็นอื่น ๆ ที่เหลืออีก 4 ประเด็นด้วยกัน

รศ.ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ
รศ.ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ

50 ปีระบอบถนอม: นายพล สงครามเย็น และประชาธิปไตยแบบไทย ตอนที่ 1

Reading Time: 2 minutes สังคมไทยควรศึกษาบทเรียนจากอดีตให้ถ่องแท้ว่าระบอบอำนาจนิยมมีกลวิธีสืบทอดอำนาจอย่างไร เพื่อรู้เท่าทันและหาทางป้องกันไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกในอนาคต

รศ.ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ
รศ.ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ

“ปรากฏการณ์กำนันนก” ประวัติศาสตร์ฉบับย่อของรัฐกับผู้มีอิทธิพลในสังคมไทย

Reading Time: < 1 minute บรรดาผู้มีอิทธิพลเหล่านี้ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ แต่ใช้ความเข็มแข็งเด็ดขาดและบารมีส่วนตัวในการทำให้ชาวบ้านเคารพยำเกรงรวมถึงเชื่อถือศรัทธา กล่าวง่าย ๆ ว่าผู้มีอิทธิพลใช้ทั้งพระเดชและพระคุณในการสร้างอิทธิพลของตนเองที่อยู่เหนือการกำกับควบคุมของรัฐขึ้นมา 

รศ.ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ
รศ.ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ

ปริศนาความรุนแรงโดยรัฐไทย (ตอนที่ 2)

Reading Time: 2 minutes ในความเคลื่อนไหว รศ.ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเมืองในสังคมไทยตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา การชุมนุมของประชาชนบนท้องถนนกลายเป็นปรากฏการณ์ปรกติของสังคมไทย ในด้านดีการชุมนุมแสดงออกทางการเมืองของประชาชนถือเป็นชีพจรที่เข้มแข็งของประชาธิปไตย เพราะสะท้อนถึงความตื่นตัวของประชาชนที่ต้องการเข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางบ้านเมือง และยังสะท้อนถึงความเป็นพลเมืองที่แข็งขัน อันเป็นหัวใจของสังคมการเมืองแบบประชาธิปไตย สิ่งที่น่าเสียดายและยังคงเป็นปัญหาเรื้อรังในสังคมไทย คือ ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในห้วงสถานการณ์การชุมนุมของประชาชน ซึ่งมีทั้งรูปแบบที่เป็นการปะทะกันระหว่างขบวนการประชาชนต่างอุดมการณ์ และความรุนแรงจากรัฐ โดยจากสถิติในช่วงเกือบ 2 ทศวรรษที่ผ่านมาพบว่าความรุนแรงทางการเมืองที่นำไปสู่การบาดเจ็บสูญเสียของชีวิตผู้คนมากที่สุด คือ ความรุนแรงโดยรัฐในการการสลายการชุมนุมของประชาชน (state repression) บทความในตอนที่แล้ว ผมชี้ให้เห็นว่าปัจจัยเรื่องระบอบการเมืองและความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับกองทัพ (รวมถึงกลไกด้านความมั่นคงทั้งหลาย) เป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดแบบแผนและระดับความรุนแรงโดยรัฐในสังคมไทย แต่ข้อค้นพบอีกประการจากงานวิจัยพบว่ามุมมองของรัฐต่อผู้ชุมนุมทั้งระดับผู้วางแนวนโยบายและระดับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ ส่งผลสำคัญต่อระดับความรุนแรงของรัฐที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งมุมมองของรัฐต่อผู้ชุมนุมถูกกำหนดมาจากยุทธวิธีการเคลื่อนไหวและแนวคิดของผู้ชุมนุมแต่ละกลุ่มที่แตกต่างกันไป ฉะนั้นการพิจารณามุมมองของรัฐ จึงแยกไม่ออกจากการวิเคราะห์ทำความเข้าใจวิธีการเคลื่อนไหว และอุดมการณ์ทางการเมืองของขบวนการประชาชน สันติวิธี-รุนแรง ผู้มีอำนาจรัฐและเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบดูแลการชุมนุมมองผู้ชุมนุมแต่ละกลุ่มไม่เหมือนกัน จากการรวบรวมข้อมูลเอกสารและการสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่รัฐ พบว่ารัฐมีวิธีคิดในการแบ่งประเภทผู้ชุมนุมกลุ่มต่าง ๆ ออกเป็น 2 ประเภทหลัก โดยใช้เกณฑ์ 2 ประการด้วยกัน คือ หนึ่ง พิจารณาว่าวิธีการเคลื่อนไหวว่าเป็นแบบแนวทางสันติหรือมีแนวโน้มใช้ความรุนแรง และสอง อุดมการณ์หรือเนื้อหาของข้อเรียกร้องว่าเป็นเรื่องปากท้องหรือเรื่อง “การเมือง” และในกลุ่มที่เป็นการเมืองก็ยังพิจารณาต่อไปว่าเป็นการเมืองที่มีเป้าหมายมุ่งไปที่การประท้วงรัฐบาล หรือมีเป้าหมายเปลี่ยนโครงสร้างอำนาจและท้าทายไปถึงสถาบันทางการเมืองที่สำคัญสูงสุดต่อชาติและความเป็นไทยซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐเน้นไปที่สถาบันกษัตริย์ แน่นอนว่าการแบ่งประเภทผู้ชุมนุมของเจ้าหน้าที่รัฐเช่นนี้เป็นการแบ่งโดยใช้คำว่า “การเมือง” ในความหมายแคบ […]

รศ.ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ
รศ.ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ

ปริศนาความรุนแรงโดยรัฐไทย (ตอนที่ 1)

Reading Time: 2 minutes รัฐบาลแต่ละยุครับมือกับการแสดงออกทางการเมืองของประชาชนด้วยแนวทางและระดับความเข้มข้นที่ต่างกันออกไป มีทั้งการใช้มาตรการทางกฎหมาย การเจรจา การหาทางออกผ่านกระบวนการทางการเมือง รวมถึงการใช้ความรุนแรงอย่างเด็ดขาดในการสลายการชุมนุม ซึ่งส่งผลให้เกิดความสูญเสียต่อทรัพย์สิน ร่างกาย และชีวิตของประชาชน

รศ.ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ