ระลอกข่าวการฆ่าตัวตายของเพื่อนร่วมสังคมมีให้เห็น และชวนหดหู่ใจหลายครั้งในช่วงปีที่ผ่านมา หน้าสื่อหนังสือพิมพ์ เลื่อนไถหน้าฟีดเฟซบุ๊ก หรือเสียงผู้ประกาศจากโทรทัศน์บอกข่าวการจบชีวิตด้วยตัวเองของคนหนึ่งคน หรือหนึ่งครอบครัวจากความเครียด พิษเศรษฐกิจ โรคซึมเศร้า หรือปัญหาส่วนตัวที่รัฐแถลง
การฆ่าตัวตายได้รับการพูดถึงด้วยความพยายามทำความเข้าใจของคนไทยมากขึ้นในช่วง 1 -2 ปีนี้ ระยะหนึ่งเราเห็นข่าวการฆ่าตัวตายที่เกี่ยวโยงกับโรคซึมเศร้าและการเจ็บป่วยทางใจ ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นข่าวกระโดดตึกฆ่าตัวตายของนักเรียนนักศึกษาปรากฎผ่านสื่อวันเว้นวัน บ้างพบจดหมายอธิบายเจ็บปวดกดดัน และอยากหลุดพ้นจากวงจรแพ้คัดออกของระบบการศึกษา
ก่อนเกิดโควิด พบว่ามีคนจบชีวิตเพราะเศรษฐกิจย่ำแย่ มิใช่เพียงลำพัง แต่จูงมือพาคนในบ้านไปสู่ความตายนั้นด้วย
ความตึงเครียด ไม่แน่นอน และความกลัวพ่วงกับโรคระบาดกลายเป็นตัวกระตุ้นให้ตัวเลขศพจากอัตวิบากกรรมของคนไทยพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ไต่เทียบจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรค ขณะที่รัฐบอกว่าการฆ่าตัวตายเป็นปัญหาส่วนตัว เป็นเรื่องของปัจเจกและคาดการณ์ได้ไม่เกินความคาดหมาย หลังจากผ่านพ้น ผ่อนปรนมาตรการตั้งการ์ดครั้งนี้ การฆ่าตัวตายจะเบาบางจางหายไปไหมในสังคมไทย
อะไรทำให้มนุษย์ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่หวงแหนการดำรงชีวิตอยู่เลือกจบชีวิตของตัวเองลงได้ Decode ชวนคุณดุจดาว วัฒนปกรณ์ นักจิตบำบัดด้วยการเคลื่อนไหว มาร่วมถอดรหัสเบื้องหลังการฆ่าตัวตาย และการแหลกสลายของคนหนึ่งคน
เราพยายามค้นหาสาเหตุการตายและอธิบายต้นตอของตัวเลขความตายที่เกิดขึ้น อะไรคือปัจจัยที่ผลักให้คนหนึ่งคนเดินไปสู่การฆ่าตัวตาย
“เราไม่มีทางรู้เลยว่าคน ๆ หนึ่งเลือกจบชีวิตลงเพราะอะไร”
มันยากมากที่จะเลือกปัจจัยใส่กล่อง แยกว่าอะไรที่นำไปสู่ตัวเลือกนั้น เพราะทุกอย่างล้วนเกี่ยวโยงและไม่สามารถตัดสินได้ว่าเขาคนนั้นใช้ชุดความคิด ประสบการณ์ หรืออารมณ์ใดตัดสินใจในห้วงเวลานั้น ดุจดาวกล่าวถึงสาเหตุการตายที่ยากนิยาม
บางคนมีปัจจัยส่วนตัวอาจจะเป็นโรคทางกายที่นำมาซึ่งสภาวะทางจิตใจที่หดหู่ท้อแท้ เจ็บปวดทรมานจนอยากจะจบสภาวะทรมานนี้แล้ว เขาอาจจะมีความคิดว่าการฆ่าตัวตายเป็นทางออกที่ดีที่สุด ที่ตัวเขาไม่ต้องเจ็บปวดทรมานแบบนี้อีกต่อไป มันเริ่มจะไม่ไหว เพราะเขาไม่เห็นว่ามันจะดีขึ้นได้ยังไง หรือการค้นพบว่าอยู่ในสภาวะที่ไม่น่าจะดีขึ้นกว่านี้ได้ พบว่าตัวเองเป็นภาระของคนอื่น การอยู่และเป็นภาระของคนอื่นคือสิ่งที่ทำให้เขายิ่งรู้สึกผิด
บางคนมีภาวะทางจิตใจอาจเป็นความเครียด หรือเรื่องส่วนตัวที่สามารถสาวไปสู่เหตุผลและปัจจัยเกี่ยวโยงอย่างอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ สังคม และโครงสร้างเหลื่อมล้ำที่มันทับซ้อน คนที่อยู่ภายใต้โครงสร้างนั้นมานานทั้งผลักและดันเพดานนั้นอยู่จนเกิดความเครียด นำไปสู่ ‘ตัวเลือก’ นั้นได้ ทุกอย่างที่กระทบใจเป็นปัจจัยได้หมด อะไรก็ตามที่มันกระทบใจแล้วหนัก ไม่มีทางออก ท้อแท้ทรมาน เหนื่อยแล้ว พอแล้ว เขาก็เต็มใจไป
ท้ายที่สุดแล้วเราไม่สามารถรู้ได้ว่าอะไรที่ทำให้เขาเลือกจบชีวิต แต่ความตายคือตัวเลือก เบื้องหลังตัวเลือกนั้นมีเหตุผล ความต้องการและไม่ต้องการบางอย่างแอบแฝงอยู่ ในฐานะนักจิตบำบัดเธอมีหน้าที่หากุญแจและประตูบานนั้นไปพร้อมๆ กับผู้เข้าบำบัดที่ปรารถนาความตายเพื่อยุติความทรมานที่เผชิญอยู่
ไม่ใช่ทุกคนที่ยินดีกับการมีชีวิต
มนุษย์มีความแตกต่างหลากหลายและพื้นฐานทางจิตใจ ที่ช่วยประคับประคองให้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากต่างกัน การตัดสินการจบชีวิตของคนๆ หนึ่งจึงไม่ใช่ทางออกที่ดีนัก ที่จะทำความเข้าใจและถอดบทเรียนการฆ่าตัวตายของคนในสังคม
เมื่อมีข่าวฆ่าตัวตายมักมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ บ้างก่นด่าคนเหล่านั้นว่าอ่อนแอ ขี้แพ้ เราควรมองการตายของพวกเขาเหล่านั้นอย่างไร
เราไม่มีสิทธิจะไปตัดสินการฆ่าตัวตาย หรือการจบชีวิตของใครสักคนนึงเลย นั่นเป็นสิ่งที่ได้ยินแล้วเราปวดใจมาก ๆ
ทำไมไม่รักตัวเองเลย ทำไมถึงทำแบบนี้ พ่อแม่เลี้ยงมาตั้งนานทำไมถึงทำตัวแบบนี้ คือการเอาตัวเองไปทาบทับ วิจารณ์ และตัดสินตัวเลือกที่เขาทำให้กับตัวเอง ถ้าเราได้รับข่าวสารแบบนั้นสิ่งที่เราทำได้ เราอาจจะให้เวลาตัวเองคิดจากมุมเขาคนนั้นว่าเขาเจออะไรมา อะไรทำให้เขาเลือกทางเลือกนี้ อย่างน้อยที่สุดแม้ไม่เข้าใจ เราก็ควรจะเคารพการตัดสินใจ ถ้าชีวิตไม่ใช่ที่ที่เขาปรารถนาจะอยู่อีกต่อไป ก็เสียใจด้วยที่มันเดินทางมาถึงตรงนี้
การตะโกนไล่หลัง ดูถูก แปะป้ายว่าคนฆ่าตัวตายคือคนโง่ ไม่สู้ ไม่พยายาม เราไม่เห็นวัตถุประสงค์ของการทำแบบนี้เลย เราไม่ควรจะเอาความตายของคนหนึ่งคนมาเป็นเครื่องป่าวประกาศความดีงามของตัวเองว่า เป็นฉันไม่ทำแบบนั้นหรอก, ใช่ นั่นไม่ใช่คุณ นั่นเป็นทางเลือกของเขา เพราะคุณไม่ใช่เขาไง
ความเคารพเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าเขาอยากเลือกวิธีอื่นเขาคงเลือกไปแล้ว แต่เขาเลือกทางเลือกนี้ที่เขาอาจจะชอบมันมากที่สุด หรือมันอาจจะเป็นตัวเลือกเดียวที่เขาเห็นมัน ณ ตอนนั้น
ถ้าเรามีคนใกล้ตัวที่อยากฆ่าตัวตาย เราควรรับมือ หรือทำอย่างไรที่จะจูงมือเขาผ่านจุดนั้นออกมา
ถ้าดาวเป็นคนใกล้ตัวที่ไม่ใช่ในฐานะนักจิตบำบัด เราจะชวนเขาคุยเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา เพราะเราอยากเข้าใจ และมันก็ช่วยทำให้เขาได้เข้าใจและทบทวนตัวเองด้วย เราจะเสนอตัวเป็นผู้ฟังที่อยู่ข้างๆ ตรงนั้น เพื่อให้เขาได้ทบทวนถึงคุณค่าในตัวเอง
การแสดงให้เห็นว่าเขาคนนั้นมีค่าสำหรับเรามากแค่ไหน ในฐานะคนรักหรือคนใกล้ตัว ในห้วงที่เขาอาจจะไม่ได้รู้สึกถึงคุณค่าในตัวเอง เราจะไม่แสดงความลำบากในการรับฟัง ความรังเกียจเดียดฉันท์ในความคิด และไม่เอาอารมณ์ตัวเองเป็นตัวตั้ง เพราะ ณ จุดนั้น ความคิดที่เขาจะเล่าและแบ่งปันกับเรามันอ่อนไหวและมีค่าสำหรับเขา เราจึงจำเป็นต้องรักษามันไว้อย่างดี
เราจะพยายามนั่งข้างๆ ให้เขาคิดสำรวจให้รอบด้าน เราคงทำแบบนั้น
เรามีความเชื่อมั่นในมนุษย์มากว่า ถ้าค่อยๆ หาปรับกันไปเรื่อยๆ เดี๋ยวมันจะเจอทางออก แต่ระหว่างการหาไปเรื่อยๆ บางคนเหนื่อยก่อน เหนื่อยแบบทนไม่ไหว เพราะฉะนั้นถ้าเราเป็นคนใกล้ตัวเขา เราจะอยู่ข้างๆ
“ระหว่างทางที่ลอง ถ้าเขาพบว่าวิธีนี้ไม่ได้ เราจะอยู่ตรงนั้น เขาลองใหม่ เขาพลาด ไม่เป็นไรเธอยังมีเรา เขาเหนื่อย ขอนั่งพัก อ่ะ เราพักด้วย”
การเสนอตัวอยู่ข้าง ๆ จะเป็นสิ่งที่เราจะทำ ถ้านั่นคือคนใกล้ตัวของเรา บางทีเขาอาจจะรู้สึกว่าเราอยู่ใกล้เกินไปในพื้นที่ความสัมพันธ์ก็อาจจะปรึกษา เสนอทางเลือกอื่น ชวนไปหาหมอ หรือคนอื่นคนใดที่จะทำหน้าที่ตรงนี้แทนเราไหม ถ้าเขาต้องการ
การรับฟังอยู่ข้างๆ ระหว่างชวนเขาสำรวจความคิด ความรู้สึก และทบทวนตัวเลือกที่จะเป็นทางออกที่เผชิญอยู่เป็นวิธีจับมือคนใกล้ตัวก้าวข้ามความคิดฆ่าตัวตายให้ผ่านไปได้ด้วยกัน
ในฐานะนักจิตบำบัด ดุจดาวทำงานอย่างไร ถ้าเขาคนนั้นปรารถนาที่จะตาย
เราจะสำรวจความคิดของเขาว่าเกิดอะไรขึ้นที่ทำให้เขามีความคิดอยากยุติการมีชีวิตอยู่ สำรวจที่มา และความต้องการ สำรวจความรู้สึกที่เขามีอยู่ขณะนั้น และชวนเขาสำรวจว่า ถ้าเขาลงมือทำจบชีวิตลงจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเขาบ้าง และมีทางเลือกอื่นๆ บ้างอีกไหม
การฆ่าตัวตายเป็นเพียงวิธีการนั่นแปลว่า เขาเลือกวิธีการฆ่าตัวตายเพื่อ…เราก็จะบอกว่าเพื่อเป็นการคลี่คลายจาก…นอกจากการฆ่าตัวตายมีอะไรอย่างอื่นได้อีกบ้าง
เพราะทางการเยียวยารักษาของกระบวนการจิตบำบัดมีข้อตกลง 2 ข้อ คือ แม้เรื่องที่เล่าจะเป็นความลับระหว่างกัน แต่ถ้าในเรื่องที่เล่านั้นพบว่า ผู้เข้ารับการบำบัดถูกทำร้ายจากคนในครอบครัว หรือใครก็ตามจะต้องแจ้งญาติ ตำรวจ หรือนักสังคมสงเคราะห์ และหากมีสัญญาณความไม่ปลอดภัยที่ผู้เข้ารับการบำบัดจะทำต่อตัวเอง หรือคนอื่นก็ต้องแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องในกระบวนการทราบเช่นกัน เพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่ายและป้องกันไม่ให้เรื่องบานปลาย
ทางการบำบัดเราเชื่อมั่นว่า สัญชาตญาณของมนุษย์คือการเอาตัวรอด มนุษย์มีความต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ พอเขามีความต้องการที่ไม่อยากจะมีชีวิต เราจะพยายามสำรวจ ให้เจอต้นตอของความต้องการฆ่าตัวตายนั้น และเราจะพยายามค้นหาประตู หรือแม้กระทั่งหากุญแจไขประตูอื่น ๆ ที่จะเปิดสู่ทางออกของภาวะนั้น นั่นคือหน้าที่ของนักจิตบำบัดและคนทำงานร่วมกัน แต่ถ้าเขายืนยันแบบนั้น ยืนยันในความปราถนาที่จะตาย เราก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะ เราพูดตรง ๆ
ไม่ผิดจากความคาดหมาย ยอดคนตายจากวิกฤติโควิดนี้ไม่มากถึงสถิติคนตายในวิกฤติต้มยำกุ้ง รัฐบาลยังหาทางป้องกันและทำให้ตัวเลขลดลงได้ ถ้อยแถลงตอนหนึ่งจากโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เราถามความเห็นของคุณดุจดาวถึงสารได้รับจากรัฐต่อการตายของคนในประเทศ
รัฐไม่ควรมองมันเป็นแค่เพียงตัวเลขหรือสถิติ และไม่ควรจะมองว่ามันเป็นเพียงแค่…
การใช้คำว่าแค่ คือการลดทอนคุณค่าความเป็นคนของชีวิตนั้นมาก การสื่อสารที่เราเคยเห็นจากภาครัฐคือพูดราวกับว่าเป็นเรื่องไกลตัวมาก ๆ เป็นเรื่องไม่ดีที่มีน้ำเสียงของการตัดสิน แปะป้ายเต็มไปหมด
รัฐควรสื่อสารว่าเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น การพูดเหมือนไม่รู้สึกอะไรเลย นั่นคือความบาดใจ ตีค่าการฆ่าตัวตายของคนในประเทศเป็นเรื่องเล็ก มันคือการลดทอน เพราะคนที่อยู่ฟังคือคนที่เหลือ พวกเขาคือคนที่รักคนที่ตายไป สิ่งที่คนที่เหลืออยู่อยากได้ยินคือน้ำเสียงที่แสดงถึงความรู้สึกเสียใจไปด้วยที่ชีวิตเขาเดินทางมาได้เท่านี้ ใช้คำพูดที่ไม่ตัดสิน เพราะคนๆ นั้นก็เป็นคนที่รักของคนอีกหลายคน ไม่แปะป้ายเหมารวม เพราะไม่อย่างนั้นคนที่อยู่ตรงนี้ก็โดนเหมารวมไปด้วยเหมือนกัน เราควรจะให้เกียรติ ให้ความเข้าใจและเป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ ยังคงเห็นความเป็นคนของชีวิตที่จบไป เคารพความเป็นคนและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของเขา
ดาวว่าเราควรกลับมามองว่า นี่เราโตมาในสังคมแบบไหนที่เราสามารถไปแปะป้ายคนตายว่า อย่างนี้โง่เนอะ ไม่ฉลาดอ่ะ แบบนี้ไม่ฉลาด คนนั้นอาจจะเป็นพ่อของใครสักคนเลยนะ เราไปพูดแบบนี้กับพ่อคนอื่นไม่ได้หรือเปล่า เราควรจะเขย่าพื้นฐานทางความคิดที่ถูกปลูกฝังมาว่ามันต้องมีอะไรสักอย่างแปลกๆ ที่พาเราไปถึงจุดนั้นที่รู้สึกว่าฉันทำได้ ฉันฉลาดกว่าฉันถึงบอกว่าเธอน่ะไม่ฉลาด ฉันคิดได้ทำไมเธอไม่ทำแบบนั้น ดุจดาวกล่าว
การฆ่าตัวตายไม่เกินความคาดหมายคือ ข้อเท็จจริงตามข้อมูลทางสถิติ แต่การแถลงข้อเท็จจริงของตัวเลขคนตายอย่างไร้สุ้มเสียงของความเห็นใจ ตำหนิและติเตียน คือการลดทอนความเป็นมนุษย์ของคนไทยคนนั้นให้เป็นแค่ตัวเลขหนึ่งของยอดความตายที่รัฐไม่เกี่ยวข้องจริงหรือ
การแสดงออกที่ตัดขาดความเป็นส่วนหนึ่งของความตาย ที่เกิดจากมาตรการการเยียวยาของรัฐทั้งทางตรงและทางอ้อม ตีความตัวเลขการจบชีวิตเป็นเพียงสถิติ และผลักไสคำอธิบายความตายนั้นไว้ในอาณาเขตของปัจเจกคือความเลือดเย็น มองข้าม และเป็นการกระทำอัตวิบากกรรมซ้ำต่อศพเหล่านั้นที่รัฐพยายามมองไม่เห็น ไม่อธิบาย คาดการณ์ได้แต่ไม่ป้องกัน หรือไม่สำคัญพอที่ต้องแก้ไข
หลังโควิดผ่านพ้นไป ความไม่แน่นอนของชีวิตและจิตใจน่าจะคงอยู่อีกสักระยะ เราควรปรับตัว เยียวยาและดูแลใจกันอย่างไร เพื่อไม่ให้การฆ่าตัวตายเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นอีกแม้โรคจะหมดไป
ก่อนหน้านี้การทำงานใกล้ชิดกับจิตใจอาจเป็นเพียงตัวเลือกที่จะทำ หรือไม่ทำก็ได้ คุณจะไม่ยืดหยุ่นทางความคิด หรือไม่ยืดหยุ่นกับโลกใบนี้เลย นั่นก็เป็นตัวเลือกของคุณ
แต่พอโควิดมามันเกิดการเปลี่ยนแปลงกระทันหัน ความสามารถในการยืดหยุ่นต่อทั้งความคิด และความเป็นอยู่มันแทบจะเป็นทางรอดให้เราไปต่อ และยังเจอตัวเลือกอื่นในชีวิตได้ อะไรที่เราไม่เคยอนุญาตให้ตัวเองทำ บางทีการอนุญาตหรือผ่อนปรนตัวเองกับตรงนั้นหน่อย ก็จะทำให้เราเจอทางเลือกใหม่ๆ ได้เช่นกัน
ความไม่มั่นคงเข้าหาทุกคนหมดไม่ว่าต้องการหรือไม่ต้องการ รู้ตัวหรือไม่รู้ตัว การทำงานกับจิตใจอย่างใกล้ชิด หมั่นสำรวจสภาวะจิตใจและความไม่มั่นคงทางใจของตัวเองเป็นเรื่องสำคัญ เพราะบางครั้งเราอาจไม่รู้ตัวและเผลอเอาไปลงกันคนอื่น หรือเผลอตัดสินใจอะไรบางอย่างในชีวิตบนพื้นฐานความไม่มั่นคงทางใจก็จะรวนไปกันใหญ่ เพราะฉะนั้นการติดตามสภาวะทางใจเป็นสิ่งที่อยากให้ทำบ่อยๆ หลังจากนี้เป็นต้นไป
โลกใบนี้อาจจะปฏิบัติกับเราและเขาโหดขึ้นเพราะไม่มีอะไรเหมือนเดิม การมีซัพพอร์ต (Support) หรือแรงสนับสนุนจากที่บ้าน คนรัก คนใกล้ตัว หรือเพื่อนเป็นเรื่องสำคัญมาก
ถ้าสำรวจเรื่องการซัพพอร์ต (Support) มีอะไรบ้าง หนึ่งคือการฟัง ดาวว่าคนส่วนใหญ่ยังฟังไม่เป็น สองคือลดทอนการแสดงความสนิทอย่างรุนแรงออกเถอะ เดิมเราเคยใช้การหยอก หยอกเพราะรัก หรือการบุลลี่ (Bully) แต่ตอนนี้ทุกคนเปราะบางมาก การมาบั่นทอนสภาพจิตใจเล่นๆ เพื่อให้รู้ว่าเราสนิทกัน ดาวว่า เอาออกไปก่อนดีกว่า
ทุกคนต้องการอะไรที่ปลอดภัยขึ้นหน่อย เพราะเราอยู่ในช่วงอันตรายมาหลายเดือน หลังโควิดอะไรที่เป็นความปลอดภัยให้แก่กันได้ก็เพิ่ม อะไรที่มันจะทิ่มแทงต่อกันก็ลดเถอะ
ต่อจากนี้ดาวมั่นใจว่า ทุกคนจะทำทุกอย่างเพื่อให้เกิดความมั่นคงกับตัวเองและครอบครัว แต่เรื่องของจิตใจและอารมณ์ เราก็พึ่งพากันได้ ให้สิ่งนี้ควบคู่กันไปด้วยเขาจะได้พอมีแรงไปจัดการชีวิตต่อ เพราะบางทีจิตใจก็ถูกมองข้าม ไปสนใจให้ความสำคัญแค่ปากท้อง แต่ถึงกระนั้นเลยเราเข้าใจว่า ความต้องการพื้นฐาน (Basic Need) จำเป็นต้องมาก่อน ดาวคิดว่ารัฐบาลหรือโครงสร้างทางสังคมใหญ่ๆ ควรจะให้ความสำคัญกับความจำเป็นพื้นฐานของประชาชนด้วย เพราะว่าถ้าความต้องการพื้นฐานเขายังไม่ถูกตอบสนอง เรื่องของจิตใจจะไม่ถูกให้ความสนใจตามมาเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว พูดไปก็เศร้าเอง
บทสนทนาระหว่างฉันและพี่ดุจดาวที่จบลงวันนั้น มีเสียงหนึ่งที่ดังสะท้อนและทำงานกับฉันคือ เรานิยามไม่ได้เลยว่าความตายของคนหนึ่งคนเกิดจากอะไรกันแน่ เราตัดสิน จับแยกปัจจัยเหล่านั้นใส่กล่องไม่ได้เลย
การปิดตา เบลอเลือนหรือทำเป็นไม่เห็นว่ามีคนตายจากสาเหตุนี้ในสังคมไม่ใช่การป้องกัน และแก้ไขได้อย่างที่รัฐบอก รังแต่จะเพิ่มขึ้นเป็นเพียงแค่ตัวเลขสถิติที่คาดการณ์ได้ และทำให้กลายเป็นความตายที่ปกติธรรมดาที่เราเองในนามปัจเจกส่วนบุคคลต้องรับมือ