#เดินทะลุฟ้า จนเกิบ (เกือบ) ทะลุพื้น
กว่าจะถึงกิโลเมตรที่ 247.5
เจ็บแต่ (ขอเดินจน) จบ
พบกับ 3 สตอรี จาก 3 เจ้าของรองเท้าที่ใช้เดินเพื่อประชาธิปไตย
พี่สถาพร: เรื่อง #เกิบ เรื่องเล็ก #ประชาธิปไตย เรื่องใหญ่
แม่ตุ๊ก: ซ่อมรองเท้า (ไปม็อบ) เพื่อซ่อมประเทศไทย
พ่อกำพล: ถอยเกิบป้ายแดง 70 บาท เดินจากโคราชถึงกรุงเทพฯ
เรื่อง #เกิบ เรื่องเล็ก #ประชาธิปไตย เรื่องใหญ่
สำหรับ สถาพร ประเทศสิงห์ ชาวอุดรธานีที่ตัดสินใจเตรียมข้าวของเครื่องนอนและรองเท้าคู่ใจเดินสมทบขบวน #เดินทะลุฟ้า จากสระบุรีมาถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมันไม่ง่ายเลย
พี่รู้แค่ว่า “เหนื่อยแค่ไหนก็ทนเอา ให้มันจบที่นี่” เพราะค่าแรงขั้นต่ำของพี่ที่เป็นแรงงานรับจ้างรายวันมันต้องแก้ที่การเมือง จาก #27กุมภาถึง#7มีนา สู้กับแดดร้อน เราก็ฝ่ามันมาได้เพราะเรารู้ว่าเราสู้กับเรื่องที่ใหญ่กว่าตัวเราเอง
“พี่ก็อยากให้เขาแก้รัฐธรรมนูญ ยกเลิกกฎหมายมาตรา112 และพลเอกประยุทธ์ต้องลาออก การเดินของเรามันมีความหมาย พี่ต้องเสียรายได้รายวัน แต่สู้มันก็ดีกว่าอยู่เฉย ถึงจะไม่เคยเดินมาไกลขนาดนี้มาก่อนเหนื่อยขนาดไหนใจ ก็ต้องสู้ เพราะพี่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่านี้แล้ว”
แม่ตุ๊ก: ซ่อมรองเท้า (ไปม็อบ) เพื่อซ่อมประเทศไทย
พื้นถนนร้อนระอุ แม่ตุ๊ก วัย 55 จากเมืองแปดริ้ว จ.ฉะเชิงเทรา กำลังเอากาวตาช้างเติมร่องรองเท้าที่เผยอออกหลังจากร่วม #เดินทะลุฟ้า วันสุดท้ายจากห้าแยกลาดพร้าวสู่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
รองเท้าคู่นี้สำคัญต่อใจสองทาง
ทางหนึ่ง…เป็นรองเท้าคู่ใจเพราะสามีชาวเนเธอร์แลนด์ซื้อให้
ทางสอง…จะมีม็อบกี่ที ก็เอาคู่นี้ไปด้วยเสมอ แม่ตุ๊กใช้มันพาตัวเองไปยืนยันสิทธิของประชาชนมาแล้ว 4 ปี
เหตุผลของการไม่ทิ้งมันไป
“ซ่อมเพราะรัก เพราะแฟนซื้อให้ และเขาชอบที่เรามา บอกตลอดว่า Good, good, good. เขาสนับสนุนเรา เขารู้ดีว่าสถานการณ์การเมืองไทยเป็นอย่างไร”
แม่ตุ๊กบอกว่า pain ในใจที่เป็นแรงขับที่ทำให้ออกมาทุกม็อบคือการเห็นคนจนยิ่งจน คนรวยกระจุก การเอารัดเอาเปรียบคนจนเป็นเรื่องธรรมดา ทำไมจึงเป็นแบบนั้น
วันนี้ แม่ตุ๊กอยากให้รัฐ #ปล่อยตัว ผู้ที่ถูกจับกุมในคดีม.112 ก่อนเป็นอันดับแรก อยากให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกจากตำแหน่ง รวมถึงต้องแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ
แม้ไม่ได้อยู่ในกลุ่มก้อนคนทำงานด้านประชาสังคม และไม่ได้เดินมาแต่วันแรก แต่แม่ตุ๊กบอกว่าเขาเป็นคนธรรมดาๆ ที่สำคัญต่อการเข้าร่วมเพราะยิ่งมาเยอะเสียงยิ่งดัง มากกว่านั้น แม่ตุ๊กเห็นด้วยกับการชุมนุมเรียกร้องแบบสันติ
“เราต่อสู้มาตลอดตั้งแต่ 2535 จนถึงวันนี้ มันยาว วันนี้มันโอกว่าวันนั้น เราพูดถึงฟ้าได้มากขึ้น ซึ่งวันนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ทนายอานนท์พูดในม็อบแฮรี่ พอตเตอร์ สุดท้ายเราหวังให้ทุกคนอยู่ใต้รัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง”
พ่อกำพล: ถอยเกิบป้ายแดง 70 บาท เดินจากโคราชถึงกรุงเทพฯ
35 46 47 52 53 ไม่ได้ใบ้หวย
แต่คือช่วงพ.ศ.ที่พ่อกำพล ยุทธกล้า อดีตเกษตรกรชาวโคราช วัย 62 ปี ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย ด้วยจุดหมายต้องการสังคมไทยที่ดีกว่าเดิม ถึงวันนี้พ่อผันตัวมาทำการค้าแล้วหลังราคาพืชผลทางการเกษตรติดหล่มอยู่หลายหน แต่ชีวิตพ่อค้าก็ยังยาก
“เราสู้มานานกับสิ่งที่ยากมาก วันนี้เด็กกล้าชน สิ่งที่คนรุ่นพ่อไม่กล้า พ่อเลยต้องออกมาช่วย”
พ่อพลตัดสินใจถอยเกิบคู่ใหม่สีแดงคู่ละ 70 บาท ออกเดินเท้าตามขบวน 247.5 กิโลเมตร แม้บาดเจ็บตั้งแต่ครึ่งทางแถวกลางดง เขตอำเภอปากช่อง แต่พ่อทำแผลเสร็จยืนยันขอเดินต่อเพราะไม่อยากให้คนน้อย 1 คน 1 เสียง สำหรับพ่อมีความหมาย
เรื่องใหญ่ที่พ่อพลทนไม่ได้ คือขอให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออก เหตุเพราะจากเดิมขายของได้วันละ 6,000 – 10,000 บาท แต่หลังรัฐประหาร วันละ 2,000 บาท ยังแทบทำยอดไม่ถึง
“พ่อเล่นโซเชียลเห็นไผ่ประกาศ #เดินทะลุฟ้า พ่อทิ้งงานมาเลยนะ” 17 วัน ระหว่างเดินจากโคราช-อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จ้างลูกน้อง 2 คนทำหมู, จ้างอีก 1 คนส่งของ คนละ 300 บาท รวมๆแล้ว ทิ้งเงินวันละเกือบ 1,000 บาท เพื่อมาต่อสู้
ระหว่างทางพ่อพลบอกเราว่ามันไม่ง่าย นอกจากถนนที่ทำทางในหลายช่วง, ทางเท้าที่ชำรุดอยู่หลายแห่ง การประสานงานขอพักและการอำนวยทางของเจ้าหน้าที่เป็นเรื่องใหญ่ไม่ง่าย