The Passenger
โรสนี นูรฟารีดา
ยังคงเป็นคุณ
ผู้วิ่งหนีความจริงวิ่งหายไปในสิ่งสมมติ
เบือนหน้าจากดงหนาม
เรียกหาทุ่งลาเวนเดอร์
และถามไถ่มันว่าทำไมไม่มีกุหลาบสักดอกปรากฎ
หากซื่อสัตย์ต่อตัวเองมากพอ
คุณจะเห็น
หนอนผีเสื้อกลางคืนแต้มสีน้ำตาลไว้ทั่วพรางตัวอยู่บนกิ่งไม้
ไม่ได้ตั้งใจสลัดขนทำร้ายใคร
เพียงแค่แผ่คลุมร่างไว้เผื่อภัยมา
ต่อเมื่อเด็กซนคนหนึ่งคว้ากิ่งไม้เข้าโดนหนอน
ขนแหลม ๆ สีดำก็ทิ่มตำมือนิ่ม ๆ ให้ได้ร้องโอดโอยงอแง
ยังคงเป็นคุณ
ผู้ปฏิเสธกลไกการปกป้องตัวเองของสิ่งมีชีวิตอื่น
หลงรักสีสันของฝูงผีเสื้อขณะบินวนฉวัดเฉวียนในท้อง
ขณะกล่าวโทษหนามดอกไม้
และเป็นปฏิปักษ์ต่อหนอนผีเสื้อ
เหมือนแกล้งไม่รู้ว่าหากปราศจากหนาม
ทั้งผีเสื้อและดอกไม้
อาจไม่มีสิ่งใดเหลือรอดมาให้ได้ชื่นชม
ยังคงเป็นคุณ
ผู้บาดเจ็บเพียงสายลมพัดแผ่วโลมผิว
หยดน้ำตาลงแทนน้ำค้าง
หวังว่ากอหญ้าหน้าแล้งจะฟื้นร่างเขียวขจี
ประคองความฝันโง่ ๆ ไว้ข้างตัว
เหมือนวันที่ปล่อยลูกโป่งหลุดออกจากมือในวัยเด็ก
หวังว่ามันจะลอยขึ้นฟ้าทะลุเมฆขึ้นไปสู่เวิ้งอวกาศ
ฝันอยากเห็นลูกโป่งของตัวเองลอยไปเทียบเคียงดวงจันทร์
แล้วจะยืนมองลูกโป่งใบนั้นจากตรงนี้
ลูกโป่งใบที่แอบใช้ปากกาลูกลื่นวาดตัวเองในชุดซูเปอร์ฮีโร่
แต่ไกลสุดก็เพียงแค่กิ่งต้นไม้
ลูกโป่งในมือไม่ได้ลอยขึ้นฟ้าเป็นเส้นตรง
ลมเดียวกับที่พัดเสียงแอกว่าวกราวกรูกันมา
พัดพาลูกโป่งออกนอกวงโคจร
หากลมไม่พัด
และกิ่งไม้ไม่ขัดขวางความฝัน
ลูกโป่งเคราะห์ร้ายใบนั้นอาจได้อยู่เคียงข้างดวงจันทร์บนฟ้า
เป็นจุดสีแดงเล็ก ๆ ข้างเงาดวงจันทร์
อยู่บนท้องฟ้าห้าโมงครึ่ง
ในโมงยามที่ความมืดยังไม่ทันมาเคาะประตูเรียก
ยังคงเป็นคุณ
เจ้าของเรื่องเล่าเศร้าโศก
เก็บงำความฝันใฝ่ไว้กับตัวมิดชิด
กลัวลมที่พัดลูกโป่งลอยไปวันนั้นจะพัดพาความฝันหายไปด้วย
ยกมือปาดน้ำเงียบเชียบ
รู้แก่ใจดีว่าเมื่อฝนมาหญ้าจะเขียว
และน้ำตาหยดเดียวชุบชีวิตใครไม่ได้
จึงยังคงเป็นคุณ
ผู้โดดเดี่ยวในฤดูแดด
และเปียกปอนโชกชุ่มในฤดูฝน
เต้นรำในม่านน้ำตา
พักผ่อนจากฤดูฝัน
หวังว่าสักวันผีเสื้อตัวนั้นจะกระพือปีก
แต่จนแล้วจนรอด
ฝันก็เป็นได้แค่ฝัน
ยังคงเป็นคุณ
ผู้โดดเดี่ยวในดื่นดึก
กางแผนที่ดาวจ้องมองผืนฟ้า
หวังว่าดาวสักดวงจะขยับมาใกล้มือ
เพิ่งรู้ตัวว่าไม่มีดาวดวงใดเคลื่อนมาหา
ไม่ว่าศตวรรษนี้หรืออีกหนึ่งร้อยปีของศตวรรษไหน
คุณต่างหากที่ต้องเคลื่อนตัวเองไปให้ใกล้ดวงดาว