ข่าวร้าย ร่างกายฉันมีสารฟีนอล - Decode
Reading Time: 2 minutes

ค่ายนักเขียน Decode Basecamp#1

อภิญญา วัชรพิบูลย์

ฉันอยู่ที่นี่มาตั้งแต่จําความได้ เช่นเดียวกับครอบครัวของฉัน บ้านของฉันตั้งอยู่ในตําบลเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ซึ่งมีหนองน้ำขนาดใหญ่ และมีแหนขึ้นอยู่จํานวนมาก จนถูกนํามาตั้งเป็นชื่อเรียกตําบลที่ฉันอยู่ แม้จะเป็นตําบลเล็ก ๆ แต่บ้านของฉันก็อุดมสมบูรณ์ คนในชุมชนของฉันส่วนมากทํานา ทําไร่และเลี้ยงสัตว์ สืบทอดกันมายาวนานหลายชั่วคน รวมถึงครอบครัวของฉันด้วย พวกเราปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้อย่างดี บ้านของฉันจึงเป็นแหล่งผลิตอาหารที่สําคัญแห่งหนึ่งในประเทศไม่แพ้ที่ใดเลย เพราะความอุดมสมบูรณ์นี้เอง คนในชุมชนจึงสามารถทํามาหากินเลี้ยงตัวเองได้โดยไม่ต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากภาครัฐนัก น้ำสะอาดก็มีให้ดื่มกินจากบ่อน้ำตื้นที่มีอยู่แทบทุกบ้าน ทุกวันฉันจะมาที่เชิงเขาเพื่อทําไร่ ทําสวนในที่ดินของบ้านฉันเอง ก่อนจะกลับเมื่ออาทิตย์คล้อยลับสายตาไปเป็นเช่นนี้ในทุกวัน ชีวิตของฉันอาจซ้ำซากจําเจ แต่มันช่างสุขสงบและเรียบง่าย ฉันคิดว่าฉันคงมีชีวิตแบบนี้ไปอีกแสนนานตามวิถีที่ควรจะเป็น สิ่งที่ฉันต้องการอยู่ที่นี่หมดแล้ว

ฉันรักบ้านหลังนี้

แรงสั่นสะเทือนดังจากทั่วสารทิศ และเสียงดังราวฟ้าถล่มทําผมสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกคืนหนึ่ง พี่น้องในฝูงต่างก็ตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ ผมกระโจนออกจากรังที่เจ้านายเอาผ้านุ่ม ๆ และไม้แถวนั้นมาทําให้ วิ่งตามเสียงนั้นไปในความมืดด้วยความใคร่รู้ ยิ่งใกล้แหล่งเสียงนั้นมากขึ้นเท่าไหร่ กลิ่นบางอย่างก็ยิ่งแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ผมว่ามัน คือกลิ่นที่ผมชอบนะ มันคล้ายกลิ่นอาหารที่ผมชอบไปคุ้ยกินกับพี่น้อง ไม่แน่ว่าเราอาจจะได้แหล่งอาหารใหม่ก็ได้ ผมหูลู่ด้วยความดีใจรีบวิ่งตามเสียงนั้นไปอย่างสุดกําลัง

ภาพที่ผมเห็นตรงหน้าคือมนุษย์ พร้อมสัตว์ขนาดยักษ์ดูน่าเกรงขามที่เคลื่อนตัวไปมาอย่างรวดเร็ว มีงวงขนาดใหญ่ดูแข็งแรงกําลังตะกุยบางสิ่งบางอย่างที่ส่งกลิ่นรุนแรงจนนําทางผมมาจนถึงที่นี่ได้ผมเห่าเสียงดังเพราะความกลัว ข้างในสัตว์ขนาดยักษ์มีมนุษย์อยู่ข้างใน รอบข้างนั้นมีมนุษย์กําลังจดจ้องสัตว์ใหญ่นี้อย่างตั้งใจ แม้เจ้าสัตว์ตัวนี้จะมีขนาดใหญ่และเสียงดัง พวกมนุษย์กลับไม่มีท่าทางหวาดกลัวมันเลย สัตว์ตัวนี้คงไม่มีอันตราย ผมเลิกเห่าเมื่อเห็นท่าทีของมนุษย์ที่ดูนิ่งเฉย เมื่อใดที่งวงนั้นตะกุยบางสิ่งขึ้นมาจากบ่อขนาดใหญ่ พวกมนุษย์ก็จะหน้าตาเหยเก หันหนีไปทางอื่น บ้างก็ปิดจมูก ผมเดินเข้าไปใกล้ ๆ สัตว์ตัวใหญ่เพื่อดูว่าสิ่งที่มันกําลังตะกุยอยู่นั้นคืออะไรยิ่งเข้าไปใกล้เท่าใด กลิ่นก็ยิ่งรุนแรงขึ้นมากเท่านั้น ผมหยุดอยู่ตรงหน้าสิ่งนั้น

มันคือบ่ออาหารขนาดใหญ่ !

ผมหูตั้ง หางแกว่งไปมาด้วยความดีใจ กระโจนเข้าไปอย่างหิวโซ ในนั้นมีเศษอาหารมากมายให้ผมได้เลือกกิน แต่แน่นอนว่าปริมาณทั้งหมดมันมากพอให้ผมกินได้เป็นปีเลยแหละ พวกมนุษย์มองมาที่ผม คงอยากแย่งสินะแต่เสียใจด้วยทั้งหมดนี้ต้องเป็นของผมคนเดียวเท่านั้น

ชีวิตของฉันวนเวียนอยู่กับบ้านและสวน กระทั่งวันหนึ่งเริ่มมีคนไม่คุ้นเคยเข้ามาในชุมชน เห็นว่าเป็นนายทุนที่เข้ามาซื้อที่เพื่อขุดเอาหน้าดินไปขาย เวลาผ่านไปที่ดินหลายแห่งก็กลายเป็นบ่อลูกรังร้าง ที่ถูกขุดเอาหน้าดินไปจนหมดจนไม่สามารถใช้ประโยชน์ใดได้กลายเป็นที่เสียเปล่า ถนนหนทางในชุมชนก็เริ่มพังจากการมีรถแบคโฮเข้าออกเป็นประจํา การลงมาทําสวนของฉันเริ่มลําบากขึ้น พื้นถนนที่มีแต่เศษหิน เศษดิน และรถใหญ่กีดขวางทางสัญจร ในขณะที่ชุมชนพบกับความเปลี่ยนแปลงอย่างไม่ทันตั้งตัว พร้อมกับจํานวนบ่อลูกรังร้างที่เพิ่มขึ้นในชุมชนอย่างมากขึ้นเรื่อย ๆ

เริ่มมีนายทุนกลุ่มใหม่เข้ามาซื้อที่บ่อลูกรังร้างเหล่านั้นไป ในครั้งนี้พวกเขา มาขอซื้อบ่อลูกรังที่ไม่สามารถใช้ประโยชน์ใดได้แล้วเพื่อทําเป็นที่ฝังกลบขยะ โดยที่พวกเขาได้รับใบอนุญาตจากรัฐมาอย่างถูกต้อง

นับจากวันนั้น บ้านของฉันเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล

นับตั้งแต่ที่นายทุนต่างถิ่นย่างกรายเข้ามาที่บ้านของฉัน วิถีชีวิตของชุมชนก็เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ความวุ่นวายมาเยือนตําบลเล็ก ๆ ที่เคยสงบเงียบและอุดมสมบูรณ์จากบ่อฝังกลบกลายเป็นกองภูเขาขยะลูกใหญ่ส่งกลิ่นเหม็นรุนแรงจนแสบจมูก พร้อมฝุ่นที่กระจายคละคลุ้งไปทั่วจนแสบตา การเข้ามาของนายทุนตั้งแต่การเข้ามาซื้อที่เพื่อขุดเอาหน้าดิน จนถึงซื้อที่เพื่อทําบ่อขยะ ส่งผลกระทบต่อกันเหมือนลูกโซ่ราวกับวางแผนเอาไว้ ในพื้นที่ใกล้เคียงเริ่มมีโรงงานเข้ามาตั้งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะโรงงานรีไซเคิลและรับกําจัดของเสียอันตราย พวกเขาบอกว่าการเข้ามาของโรงงานจะช่วยให้คนในชุมชนอย่างพวกเรามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ฉันยินดีหากบ้านของฉันจะได้รับการพัฒนา แต่สิ่งที่ฉันได้เจอหลังจากนั้นมันกลับไม่เป็นไปอย่างที่เขาว่ากัน โรงงานไม่ได้จ้างชาวบ้านในพื้นที่ทํางานพวกเขาไปจ้างแรงงานต่างชาติที่ราคาถูกกว่าพวกเรา ปริมาณขยะที่เพิ่มขึ้นไม่ได้ถูกกําจัดออกไปเน่าเหม็นยิ่งกว่าเคย ฝุ่นควันยังคงฟุ้งกระจายไปทั่ว และน้ำเสียถูกทิ้งอย่างไร้มาตรฐานจากโรงงาน พวกคนก่อปัญหาไม่เคยรับผิดชอบอะไร มีแต่พวกเราที่อาศัยในพื้นที่ที่ต้องรับผิดชอบตัวเอง ของเสียที่คนอื่นต้องการกําจัดออกไปให้ไกลบ้าน กลับมากองรวมกันอยู่ที่บ้านของฉันเสียเอง ช่างน่าเจ็บใจเพราะฉันไม่ได้ร้องขอมันมา แต่ปัญหาทั้งหมดมันเกินกว่ากําลังที่ชาวบ้านธรรมดาอย่างเราจะจัดการได้ ฉันและคนในชุมชนรวมตัวกันยื่นหนังสือเพื่อคัดค้านการเปิดกิจการของพวกเขา

แต่เสียงของเราไม่เคยดังไปถึงผู้มีอํานาจเลย

ตั้งแต่คืนนั้นที่ผมได้เจอกับสัตว์ยักษ์มีงวงนั่น ผมมักหนีออกจากรังมาตะกุยหาอาหารในบ่อกิน พักหลังมานี้มีสัตว์ขนาดใหญ่ พร้อมมนุษย์แปลกหน้าเข้ามาแถวอาณาเขตผมมากขึ้นเรื่อย ๆ พวกนี้มักเข้ามาพร้อมกองอาหารและน้ำสีแปลก บ่อยครั้งผมมักเห็นพวกมนุษย์ในชุมชน รวมถึงเจ้านายของผมแสดงท่าทางไม่พอใจต่อมนุษย์แปลกหน้า และส่งเสียงดังใส่กันบ่อย ๆ นับวันบ่ออาหารนี้ก็เริ่มใหญ่ขึ้น ๆ ส่งกลิ่นหอมหวนไปไกล กลายเป็นภูเขาอาหารลูกยักษ์ไกลสุดสายตา นานวันเข้าน้ำในบ่อก็กลายเป็นสีดำและลึกมากขึ้น ๆ จนผมกระโดดลงไปเล่นไม่ได้อีกต่อไปผมจึงมักใช้เวลาส่วนใหญ่ออกเดินสํารวจหาอาหารไปมาตามบ่อต่าง ๆ เช่นเดียวกับเจ้านายที่ผมบังเอิญมาเจอที่นี่บ่อย ๆ พร้อมมนุษย์ต่างถิ่นที่เข้ามาสํารวจบริเวณนี้ผมมักทําหน้าที่พาพวกนั้นไปสํารวจตามบ่อต่าง ๆ พวกมนุษย์ต่างถิ่นมักบอกว่าที่นี่เหม็น พวกเขามายืนคุยกันหน้าบ่อพวกนี้ชี้นู่นชี้นี่ในบ่อ และเรียกมันว่า บ่อขยะ

สายตาของเจ้านายดูเศร้าหมองกว่าที่ผมจําได้

สถานการณ์บ้านของฉันไม่สู้ดีนัก หลังจากที่พวกเรายื่นหนังสือคัดค้านการตั้งโรงงานในพื้นที่ ไม่กี่ปีถัดมาพวกเราพบว่าโรงงานในพื้นที่ลักลอบทิ้งน้ำเสียจากกระบวนการอุตสาหกรรมมาทิ้งในบ่อลูกรังในพื้นที่ชุมชน ซึ่งน้ำเหล่านี้ไม่ได้ถูกบําบัดอย่างถูกต้อง เมื่อเวลาผ่านไปน้ำที่ฉันใช้ดื่มกินเริ่มมีกลิ่นและสีที่แปลกไป สัตว์ที่ชาวบ้านเลี้ยงล้มตาย และเป็นโรคพร้อมกันอย่างไม่มีสาเหตุชาวบ้านบางส่วนมีอาการเวียนหัว คลื่นไส้ตาพร่ามัว พวกเราร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ตั้งแต่ระดับอบต. อบจ.ให้เข้ามาตรวจสอบแหล่งน้ำในชุมชน แต่มันไม่ง่ายนักที่จะทําให้หน่วยงานใดสนใจปัญหาที่เกิดขึ้น เหมือนทุกคนต่างเพิกเฉยต่อสิ่งที่พวกเราเผชิญ

พวกเราต้องเผชิญกับอํานาจมืดที่มองไม่เห็นที่พยายามเข้ามาปิดปากไม่ให้พวกเราพูดสิ่งที่เกิดขึ้นในชุมชน ทั้งโดนข่มขู่และคุกคามจากอํานาจมืดที่มองไม่เห็น ช่วงหนึ่งรอบ ๆ ที่นาของชาวบ้านที่ติดกับโรงงานมีกระสุนปืนตกเต็มไปหมด เสมือนย้ำเตือนว่าหากพวกเราขัดขืนราคาที่ต้องจ่ายคือชีวิตของเราเอง

การสู้เพื่อปกป้องบ้านของเรามีมูลค่าที่ต้องจ่ายมากมายกว่าที่คิดไว้ แต่พวกเรายังคงทําทุกวิถีทางที่จะอยู่
บ้านของเราต่อไป

การต่อสู้กินเวลานาน พวกเราเชิญสื่อเข้ามาในพื้นที่เพื่อเปิดโปงความจริงที่เกิดขึ้น จนได้รับความสนใจมากมาย แต่มันไม่ง่ายนักที่ชาวบ้านตัวเล็กอย่างพวกเราจะไปงัดข้อกับผู้ทรงอิทธิพลที่ได้รับประโยชน์เป็นเม็ดเงินมหาศาลจากโรงงาน ทั้งเครือข่ายที่ได้รับประโยชน์คนอื่น ๆ รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐที่รู้เห็นเป็นใจที่อาจเสียประโยชน์จากการเปิดโปงความจริงเรื่องนี้แกนนําชุมชนของพวกเราหลายคนถูกหมายหัว

กระทั่งผู้ใหญ่ประจบผู้เป็นแกนนําหลักคนสําคัญของพวกเราถูกมือปืนประกบยิงกลางวันแสก ๆ ต่อหน้าสายตาผู้คนจํานวนมาก โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายเลย ซึ่งหลายเดือนต่อมาตํารวจได้เข้าจับกุมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม และเจ้าของโรงงานอุตสาหกรรมที่มีข้อพิพาทในพื้นที่ในฐานะผู้จ้างวานฆ่า วิถีชีวิตของพวกเราเปลี่ยนไปจนคาดไม่ถึง

การเสียชีวิตของผู้ใหญ่ประจบปลุกกระแสความสนใจของคนจํานวนมาก พร้อมหน่วยงานหลายแห่งที่สนใจเข้ามาเก็บข้อมูลศึกษา เกิดเป็นความร่วมมือระหว่างชาวบ้านในชุมชนกับหน่วยงาน และมหาวิทยาลัยต่าง ๆทําให้ได้ข้อสรุปจากการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างน้ำบาดาลที่ชาวบ้านใช้พบว่ามีการปนเปื้อนสารอันตรายหลายชนิดทั้งแมงกานีส สังกะสี สารหนู ตะกั่ว และฟีนอลที่มีความเป็นพิษสูงมากเกินค่ามาตรฐาน และเป็นอันตรายต่อมนุษย์ ซึ่งผลจากการตรวจตัวอย่างน้ำและสารพิษจากโรงงานก็มีผลในทิศทางเดียวกัน คาดว่าสาเหตุเกิดจากการลักลอบทิ้งน้ำและของเสียจากโรงงานทําให้สารปนเปื้อนต่าง ๆ ซึมลงไปในบ่อน้ำใต้ดินที่ชาวบ้านใช้ดื่มกิน และใช้ในการเลี้ยงสัตว์

ผลกระทบจากมลพิษทําให้สุขภาพใจ และสุขภาพกายของเราจะย่ำแย่ลงจากการสูดดม สัมผัส และบริโภคน้ำที่มีสารปนเปื้อน ทั้งที่มีการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างน้ำแล้ว แต่สถานพยาบาลต่างๆ ก็ไม่มีที่ใดสามารถตรวจพบปัญหาที่แท้จริงของอาการป่วยที่นี้ได้ และบอกปัดว่าอาการที่เกิดขึ้นไม่ได้มีสาเหตุมาจากโรงงาน บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขหลายคนพยายามจะเข้ามาพูดคุยกับพวกเรา และต้องการจะพาพวกเราไปตรวจหาสารพิษในร่างกาย แต่คนที่ออกมาพูดสุดท้ายจะถูกสั่งย้ายออกไป ไม่ก็ถูกตักเตือนโดยผู้มีอํานาจ ฉันและชาวบ้านหลายคนพยายามไปขอตรวจสารพิษในร่างกายกับโรงพยาบาลหลายแห่งเพื่อขอหลักฐานไปต่อสู้ในทางกฎหมายส่วนมากฉันจะโดนปฎิเสธเสมอ จนในที่สุดฉันก็ได้ตรวจกับโรงพยาบาลแห่งหนึ่งจากความอนุเคราะห์ของแพทย์ที่ยังยึดมั่นในความถูกต้องซึ่งผลออกมาพบว่า

ร่างกายฉันมีสารฟีนอล
เป็นประจักษ์พยานในร่างกายของเราที่พวกเขาอยากปิดให้มิด

จนถึงตอนนี้โรงงานต่าง ๆ ยังคงเปิดกิจการอยู่เช่นเดิม แม้มีการเข้าไปตรวจสอบแต่ปัญหาก็ยังคงไม่ได้ถูกแก้ผู้จ้างวานผู้ใหญ่จบพ้นโทษ และลอยนวลเหนือปัญหาที่ได้ก่อไว้มีหน่วยงานต่าง ๆ เข้าไปลงพื้นที่สม่ำเสมอ แต่ภาครัฐยังคงไม่มีการออกนโยบายป้องกันในเชิงรุกใดกับปัญหามลพิษที่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม สายสัมพันธ์ทางการเมืองยังคงเหนียวแน่นยิ่งกว่าความยุติธรรม และสิทธิพื้นฐานในการดํารงชีวิตของชาวบ้านในพื้นที่ พวกเราพยายามทําทุกวิถีทางแต่ไม่เคยได้รับข่าวดี ความหวังว่าจะทวงคืนบ้านของเรากลับคืนมาริบหรี่ลงเรื่อย ๆ แต่ก็ยังคงสู้ต่อไป พวกเรามาไกลเกินกว่าจะถอย และหนีไปไหนไม่ได้แล้ว เพราะบ้านคือที่มั่นเพียงแห่งเดียวของพวกเรา

บ้านของฉันชื่อ หนองแหน