The Passenger
โรสนี นูรฟารีดา
บางขณะ
ฉันก็อยากกดปุ่มหัวเราะ
แด่เรื่องราวโศกเศร้าช้ำรัก
ที่มีน้ำตาจากตัวหนังสือบ่าไหลเป็นน้ำตก
เอ่อท่วมอยู่บนหน้าจอเฟซบุ๊ก
และเจิ่งนองอยู่ใน 280 ตัวอักษรบนทวิตเตอร์
ติดแฮชแทกชื่ออดีตความทรงจำของวันนี้เมื่อไม่กี่ปีที่แล้ว
แด่เรื่องเล่าเศร้าโศก
ที่ตัวละครหลักไม่แน่ใจ
ว่าระหว่างความรักกับความเห็นแก่ตัว
สีสันของมันแตกต่างกันอย่างไร
แด่เรื่องราวของความเสียสละ
และการประคบประหงมรักใคร่ดูแล
ที่สุดท้าย
ผู้ตกเป็นเหยื่อของความไว้เนื้อเชื่อใจ
ก็ไม่ต่างอะไรกับคนโง่
แด่เรื่องราวที่เต็มไปด้วยการให้อภัยอันแสนโรแมนติก
ที่อาชญากรไม่เคยรู้สึกสำนึกได้
ศีลธรรมผิดชอบชั่วดีมีในหัวใจ
แต่ไม่เคยปรากฏให้เห็นสิ่งใดในการกระทำ
แด่เรื่องการผจญภัยบนความทรงจำที่ไม่เคยจับต้องได้
ภาคภูมิใจ
ว่ากาลครั้งหนึ่งเคยใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน
และสร้างเรื่องเล่าฟุ้งฝันซ้ำ ๆ จนเกิดเป็นภาพจำใหม่
ประทับตราเอ่ยอ้างความเป็นเจ้าของ
บนทุกเวที
ที่วงไฟของสปอตไลต์ส่องถึง
บางขณะ
ฉันก็อยากกดปุ่มหัวเราะ
เย้ยหยันความจิตใจดีไม่เป็นพิษเป็นภัย
ที่ถูกเอาเปรียบซ้ำแล้วซ้ำเล่าในนามความรัก
และบางขณะ
ฉันก็อยากกดปุ่มห่วงใย
โอบกอดทุกความทรงจำด้วยความเอ็นดู
พลางจับจูงมือคู่ที่เพิ่งทำไอศกรีมหล่นพื้น
ไปเลือกซื้อไอศกรีมใหม่ที่อร่อยกว่าเดิมล้านเท่า
เอ่ยคำพูดจาปลอบขวัญ
ว่าเราไม่ได้มีวันแย่ ๆ ทุกวัน
บางวันก็แค่โชคไม่ดีที่เจอฝันร้าย
และปีศาจตัวใหม่คือคนที่เรายื่นมีดให้เองกับมือ
แต่ทุกขณะที่ฉันอยากกดปุ่มหัวเราะ
ฉันกลับยั้งมือของตัวเองไว้เสมอ
เรามีเรื่องรักอันแสนร้ายกาจเหลือเฟือเกินไปแล้วในประเทศแห่งนี้
เรารักคนที่เรารัก
และอดทนใช้ชีวิตร่วมกับคนที่เราไม่ได้รัก
จนหมดความอดทน
แต่ก็ยังจำทนทรมานตัวเองด้วยการไม่หนีไปไหน
จะมีอะไรขำขื่นกว่าการเสแสร้งหน้าชื่นตาบาน
ต่อความรักที่อกไหม้ไส้ขมอยู่เพียงลำพังภายในอีกไหม ?
เช่นนั้น… ฉันจึงไม่กดปุ่มอะไรเลย
เรามีเรื่องรักแสนช้ำเป็นโศกนาฏกรรมของประเทศ
จำยอมให้คนที่ไม่ได้รักเราป่าวประกาศความรักจอมปลอมจนออกนอกหน้า
สมยอมถ่ายภาพคู่รัก
แลกกับสวัสดิการชีวิตกระจิดกระจ้อยร่อย
ได้แต่พร่ำบ่นก่นด่าให้คนอื่นฟัง
แต่ไม่เคยกล้าหาญมากพอจะลุกขึ้นเปลี่ยนแปลงสิ่งซึ่งดักดานซ้ำซากจำเจ
เราแอบชื่นชมอัศวิน
และเพียรบริจาคโลหะ เหล็ก เงิน
เพื่อหล่อโล่ที่ทนทานแข็งแกร่ง
เราฝันว่าถ้าหากประเทศนี้มีจำนวนอัศวินมากพอ
นักรบเหล่านั้นจะปลดปล่อยเราให้เป็นอิสระ
จากพันธนาการความรักจอมปลอมอันน่าพะอืดพะอมขมปร่านี้ด้วย
เราได้แต่ฝัน
อย่างน้อยก็สักนาทีหนึ่งใน 24 ชั่วโมง
ที่ได้มีโอกาสกล่อมประสาทตัวเองให้พบกับความสุข
ก่อนจะก้มหน้าก้มตา
ยอมรับความสัมพันธ์ชนิดที่บูชายัญตัวเองไว้ในกองเพลิง
ไม่ใช่ไม่บูชาความรัก
แต่ความรักไม่บูชาคนผู้เผด็จการในความสัมพันธ์
โมเดลประชาธิปไตยเบ่งบานจึงเป็นได้แค่บ้านของตุ๊กตากระดาษ
ที่ถูกออกแบบดีไซน์วาดรูประบายสีพื้นที่ใช้สอยขึ้นใหม่
สวมทับทุกหลักการ
ไม่เหลือเค้าโครงบ้านของนักปกครอง
บางขณะ
ฉันจึงอยากกดปุ่มหัวเราะ
แด่ความพังทลายของคนผู้เสแสร้งว่าสบายดี
มีความสุขอยู่ในมหาสมุทรน้ำตา
โงนเงนอยู่บนคำสัญญาพล่อย ๆ
และนิยามศัพท์ที่ตัวเองบัญญัติขึ้นใหม่
เพื่อลดทอนความหยาบคายในความหมายที่แท้จริงของมัน
แต่ท้ายที่สุด… ก็ไม่
ฉันไม่ได้กดปุ่มอะไรเลย
เปลวไฟแห่งการบูชายัญ
ลามเลียจากบ้านหลังหนึ่งไปสู่บ้านอีกหลัง
ตามติดเป็นเงาไปสู่บ้านทุกหลัง
ที่ไม่เคยแข็งขืนตั้งคำถามต่อความสัมพันธ์อันฉ้อฉลบนความไว้เนื้อเชื่อใจ
คนผู้เรียกร้องความเท่าเทียมนอกบ้าน
ล็อกประตูบ้านกักขังทุกความรู้สึก
ไม่ให้เสียงสะอื้นเล็ดลอดออกไปเฉลย
ว่าความล้มเหลวต่อการให้เกียรติและเคารพซึ่งกันและกันในนามคนรักหน้าตาเป็นอย่างไร
และท้ายที่สุด… ก็ไหม้
มอดไหม้อยู่ภายในไม่กล้าเปิดแผลให้ใครมองเห็น
บทเพลงแห่งการบูชายัญกลืนกินความรักความลุ่มหลง
กว่าเถ้าถ่านของความรู้สึกที่แท้จริงจะปรากฏ
คนผู้ขาดทุนก็คว้าอะไรไว้ในมือไม่ได้สักอย่าง
บางขณะ
ฉันจึงอยากกดปุ่มหัวเราะ
แด่โศกนาฏกรรมการปกครองที่กัดกินประเทศนี้มาอย่างยาวนาน
แต่เราก็ยังยืนหยัด
ใช้ชีวิตประจันหน้าต่อสู้มันอย่างท้าทาย