Space for Thai
นิศาชล คำลือ
แม้ว่าในบางประเทศ บางพื้นที่ บางกลุ่มสังคม เซ็กซ์จะเป็นเรื่องน่าละอาย เป็นด้านมืด สื่อลามกเป็นเรื่องผิดศีลธรรม และเซ็กซ์เวิร์กเกอร์เป็นคนบาป แต่แท้จริงแล้วเซ็กซ์เป็นเรื่องน่าละอาย เป็นด้านมืดที่ไม่ควรได้รับการพูดถึง และเซ็กซ์เวิร์กเกอร์ควรที่จะถูกประณามจริง ๆ หรือ
ถ้า ศีลธรรม หมายถึง ความประพฤติที่ดีที่ชอบ แล้วใครกันที่จะชี้ขาดได้ว่าสิ่งไหนดีหรือไม่ดี
ย้อนกลับไปในอดีต มนุษย์มีวิวัฒนาการในเรื่องเซ็กซ์มาเรื่อย ๆ อย่างยาวนาน บนพื้นฐานของเหตุผลทางชีววิทยาอย่างการดำรงเผ่าพันธุ์ เฉกเช่นเดียวกับสัตว์หลาย ๆ ชนิดที่อาศัยรูปแบบของเซ็กซ์ในการสืบพันธุ์ แต่นอกจากนั้นมนุษย์ยังมองเซ็กซ์ในแง่มุมของความสำราญ ความสัมพันธ์ และการเติมเต็มให้ตนเองและคู่ในแง่มุมใดแง่มุมหนึ่ง
ฉะนั้นการที่มนุษย์สักคนจะมีอารมณ์ทางเพศ เสพสื่อลามก ช่วยตัวเอง หรือมีเซ็กซ์ ล้วนแล้วไม่ใช่เรื่องผิดแปลก แต่ทั้งหมดทั้งมวลควรอยู่ภายใต้การไม่ล่วงละเมิดผู้อื่น ไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ หรือกระทบการใช้ชีวิตประจำวัน
หากเรามองเรื่องเซ็กซ์ผ่านมุมมองทางวิทยาศาสตร์จริง ๆ เราจะเห็นได้ว่ามันเป็นเพียงพฤติกรรมทางธรรมชาติพฤติกรรมหนึ่งเท่านั้น เช่นเดียวกันกับความหิวที่คอยกระตุ้นให้มนุษย์กินเพื่อความอยู่รอด แต่นอกจากนั้นการกินก็มอบความสุขและเติมเต็มให้กับมนุษย์ในแง่มุมอื่นได้อีกด้วย จะเห็นได้ว่าผู้คนทั่วโลกต่างให้ความสำคัญกับอาหารที่ตนและคนรักรับประทานเข้าไป ชอบกินอะไร ไม่ชอบกินอะไร แพ้อะไร เซ็กซ์เองก็ควรจะได้รับความสำคัญแบบนั้นเช่นกัน
ในขณะที่บางกลุ่มสังคมพยายามให้เซ็กซ์เป็นเรื่องต้องห้าม แต่ในโลกของวิทยาศาสตร์ที่พามนุษย์ไปได้ไกลถึงอวกาศ กำลังมองไปถึงวิวัฒนาการของเซ็กซ์ในอวกาศ
ในการส่งนักบินอวกาศไปปฏิบัติภารกิจบนอวกาศเป็นเวลานาน แน่นอนว่าพวกเขาย่อมโหยหาความสุขแบบที่เคยได้สัมผัสบนโลก ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารร้านโปรด กีฬาบางชนิด และแน่นอน เซ็กซ์
ด้วยข้อจำกัดหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นด้านชีวภาพที่ร่างกายทำงานต่างออกไปจากบนโลก เช่น ระบบหมุนเวียนเลือด ที่เลือดส่วนใหญ่จะไหลไปอยู่บนร่างกายส่วนบนมากกว่าร่างกายส่วนล่าง ทำให้อวัยวะเพศชายแข็งตัวยากขึ้น เป็นต้น หรือจะปัญหาด้านความเครียดเนื่องจากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ต่างออกไปจากปกติอย่างมาก ส่งผลให้อารมณ์ทางเพศลดลง และที่สำคัญที่สุดคือนักบินอวกาศจะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก อย่างความปลอดภัยของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในยาน สมมุติว่านักบินอวกาศ A ทำการช่วยตัวเอง ของเหลวที่หลั่งออกมาจะลอยสะเปะสะปะและอาจทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในยานเสียหายได้ หรืออาจจะลอยไปติดหน้าเพื่อนนักบินด้วยกันก็เป็นได้
หน่วยงานอวกาศหลาย ๆ หน่วยงานในปัจจุบันพยายามส่งเสริมความเป็นอยู่ของนักบินอวกาศให้พวกเขามีคุณภาพชีวิตที่มีความสุขแบบที่ใกล้เคียงกับชีวิตบนโลกมากที่สุด ที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือเรื่องของอาหารที่ได้รับการพัฒนาเพื่อเติมเต็มความสุขให้กับมื้ออาหารของนักบินมากกว่าในอดีต เซ็กซ์เองก็เช่นกัน
ในมุมมองของผู้เขียน เหล่านักบินอวกาศที่ออกไปปฎิบัติภารกิจบนอวกาศก็เหมือนกับกลุ่มทดลองที่ไปลองใช้ชีวิตบนอวกาศก่อนพวกเราทุกคน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตบนอวกาศให้มีความสามารถในการตอบสนองความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ทั่วไปได้ เนื่องจากในอนาคต อาจจะอีก 100 ปี 200 ปี หรือมากน้อยกว่านั้น การเดินทางในอวกาศและการตั้งรกรากบนดาวดวงอื่นจะเป็นเรื่องปกติสำหรับทุกคน และเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงความจริงนี้ได้
แม้จะยังไม่เคยมีใครมีเซ็กซ์บนอวกาศมาก่อนก็จริง แต่ก็เคยมีการทดลองมีเซ็กซ์ในสภาวะเกือบไร้แรงโน้มถ่วงด้วยเที่ยวบินพาราโบลิก (Parabolic Flight) ซึ่งเป็นการบินในลักษณะรูปคลื่นเพื่อจำลองสภาวะเกือบไร้แรงโน้มถ่วง หรือที่เรียกว่า Microgravity โดย Vanna Bota และสามี แม้ผู้ทดลองทั้งสองจะไม่สามารถมีเซ็กซ์กันได้สำเร็จ เนื่องจากสภาวะไร้แรงโน้มถ่วงที่เป็นอุปสรรค แต่ข้อสรุปของการทดลองก็ได้นำมาซึ่งแนวคิดต่าง ๆ ที่อาจแก้ปัญหาและทำให้มนุษย์สามารถมีเซ็กซ์กันได้บนอวกาศจริง ๆ
มันอาจดูเหมือนว่าไม่มีอะไรคืบหน้าเลยในงานวิจัยที่กล่าวไปข้างต้น แต่นี่คือใบเบิกทางเซ็กซ์ในอวกาศที่แท้จริง เนื่องจากทำให้เรามองเห็นถึงปัญหาอย่างชัดเจน ซึ่งการมองเห็นปัญหาอย่างชัดเจนนี้แหละที่จะนำไปสู่การแก้ไขที่ถูกจุดในอนาคต
และแม้เราจะยังไม่ได้ข้อสรุปถึงวิธีการมีเซ็กซ์ในอวกาศอย่างชัดเจน แต่ก็ทำให้ได้เห็นว่าเซ็กซ์ไม่ใช่เรื่องน่าละอายที่ไม่สามารถพูดถึงได้ และต้องซุกซ่อนมันไว้ในความมืด เซ็กซ์กลับเป็นเรื่องที่ควรได้รับการพูดถึงและให้ความสำคัญเสียด้วยซ้ำ เพื่อแก้ปัญหาที่หลาย ๆ ประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญ อย่างปัญหาท้องไม่พร้อม หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
ขาวหรือดำอาจขึ้นอยู่ที่มุมมอง ไม่แน่เทคโนโลยีอวกาศที่สามารถทำให้มนุษย์สามารถมีความสุขกับเซ็กซ์บนอวกาศได้ อาจสามารถนำกลับมาพัฒนาและเติมเต็มความสุขให้กับชีวิตเซ็กซ์บนโลกได้ดีมากยิ่งขึ้น สร้างความมั่งคั่งให้กับเจ้าของเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง
การยอมรับในความต้องการ อารมณ์ และความรู้สึกของตนเองและผู้อื่น ย่อมเป็นบันไดขั้นแรกในการจัดการปัญหาในสังคมได้ดีกว่า และอาจจะเกิดประโยชน์กับชีวิตผู้คนในสังคมได้มากกว่าการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ อย่างการปกปิด ซุกซ่อน และประณามอารมณ์ความต้องการอันเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์
สำหรับผู้เขียนแล้วมนุษย์ไม่ใช่สัตว์ประเสริฐ เห็นทีก็จะมีแต่พวกเรามนุษย์ด้วยกันเองนี่แหละที่กล่อมตัวเองอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันว่าตนเป็นประเสริฐกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นใด แต่ถึงแม้จะประเสริฐก็ยังเป็นเพียงสัตว์อยู่ดี