Into the Wild เดินเข้าไปในความรกร้างว่างเปล่า - Decode
Reading Time: < 1 minute

เพราะมนุษย์ไม่ควรตกอยู่ในชะตากรรมเช่นนี้

สิทธิพล ชูประจง

เดินเข้าป่า…

แสงแดดอ่อน อากาศเย็นของช่วงเช้า ต้นไม้ใบหญ้าบริเวณนั้นดูสด ในพื้นที่ความเขียวมีชายหนุ่มผมยาวนั่งบนผืนหญ้าตัวห่มคลุมด้วยผ้าดิบผืนใหญ่ เขานั่งทอดสายตาไปยาวไกล เขายิ้มเล็กยิ้มน้อย หัวเราะเหมือนได้ฟังเรื่องตลก พูดเหมือนมีเพื่อนคุย แต่ตรงนั้นไม่มีใคร 

ฉากชีวิตเปลี่ยนไป เริ่มสายแดดเช้าถูกปนด้วยไอเสียสีดำ เสียงนกถูกเสียงกระหึ่มดังรอบทิศกลบเกลื่อน น้ำค้างและอากาศเย็นม้วนหายไปด้วยความร้อนของวัน ความเป็นป่าถูกลบทิ้ง มันเหลือเพียงที่รกร้างว่างเปล่าริมถนนสุขุมวิทเท่านั้น

ก่อนหน้าเข้าป่า…

ชายหนุ่มก้าวออกมายังพื้นที่โล่งกว้างของดาดฟ้าอะพาร์ตเมนต์ เขาพาตัวเองมาปะทะกับสายลมและสายตาใครหลายคนอย่างจงใจด้วยร่างเปลือยเปล่าไร้ชิ้นเสื้อผ้า

ที่ชั้น 5 ประตูห้องของชายหนุ่มเปิดออกตลอดเวลา ไม่ใช่เพื่อรับอากาศแต่อย่างใด แต่มันเป็นไปเพื่อให้หญิงสาวที่มีห้องหับในชั้น 5 ได้เห็นร่างอันเปลือยเปล่าของชายหนุ่มอย่างจงใจ

ที่ชั้น 2 ห้องของหญิงสาวที่ชายหนุ่มประทับใจ ประตูห้องของหญิงสาวถูกเคาะ จดหมายถูกสอดเข้าไปที่ใต้ประตู สายตาของหญิงสาวเจ้าของห้องมองผ่านตาแมวของประตู ดวงตาของเธอรายงานผล หัวใจตกไปที่ตาตุ่ม ชายหนุ่มเจ้าของจดหมายกำลังนุ่งกางเกงในตัวเดียวยืนอยู่หน้าประตูห้องของเธอ

ก่อนหน้านั้นอีกสักหน่อย…

ชายหนุ่มอยู่กับพ่อในอะพาร์ตเมนต์เพียงสองคน มีบางช่วงเวลาพวกเขาก็มีชีวิตอื่นเข้ามาอยู่ร่วมด้วย ”แม่ของชายหนุ่ม” คือหนึ่งในนั้น แต่นั่นก็เนิ่นนานมากแล้ว อีกหนึ่งชีวิตเป็น ”แฟนสาวของชายหนุ่ม” และนั่นก็เนิ่นนานมาแล้วอีกเช่นกัน

พ่อของชายหนุ่มคือ ชนชั้นแรงงานตลอดห้วงเวลาที่นับแต่เข้ามาหารายได้ในกรุงเทพฯ ค่าแรงซึ่งอิงอยู่กับคำว่าขั้นต่ำของเงินค่าแรงค่าจ้างในแต่ละรัฐบาล ดีขึ้นมานิดหน่อยที่นายจ้างบางคนมีข้าวฟรีให้ มีงานล่วงเวลาให้ ซึ่งต้องแลกกับการต้องเฝ้าที่ทำงานในฐานะ ”ยาม” อีกหนึ่งตำแหน่ง แต่มันก็คงคุ้มที่สามารถรักษาที่อยู่เป็นหลักแหล่งให้กับลูกชายได้อาศัยอยู่ตั้งแต่เล็กจนโต ลูกชายของเขาที่ใครหลายคนบอกกันว่า ”ชายหนุ่ม” เป็นคนน่ารัก เป็นคนเรียนดีตั้งแต่เด็ก เมื่อออกมาหารายได้เอง ชายหนุ่มก็เป็นคนขยันทำงาน

แต่ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยน เปลี่ยนไปแบบที่เรียกได้ว่า ”หน้ามือเป็นฝ่าตีน”

ไปสู่ความดิบ…

หลังจากเขาเปลือยร่างไร้อาภรณ์จนถูกพูดถึงไปทั่วทั้งอะพาร์ตเมนต์ พ่อและชายหนุ่มก็ถูกบอกให้ย้ายออกไปจากห้องหอที่เคยอยู่ทันที สองคนพ่อลูกย้ายไปอยู่ที่ใหม่ แต่พฤติกรรมของชายหนุ่มยังคงวนซ้ำเช่นเดิม ไม่นานนักเขาปรากฏตัวอีกครั้งหนึ่งที่อะพาร์ตเมนต์แรกที่เคยอยู่ ไม่ใช่การปรากฏตัวในห้องหอภายใน แต่เป็นศาลพระภูมิหน้าอะพาร์ตเมนต์ ไม่นานพ่อของชายหนุ่มก็ปรากฏตัวให้คนที่อะพาร์ตเมนต์นั้นได้เห็นเช่นกัน ผู้คนได้พบเห็นในขณะที่เขาเอาอาหาร และการดูแลอื่น ๆ มาให้กับลูกชายคนเดียวคนนั้นของเขา

จนแล้วจนรอดชายหนุ่มยังคงอวดโชว์เรือนร่างเปล่าเปลือยของตัวเองไม่หยุด ถึงแม้ที่แห่งนั้นจะเป็นข้างถนนก็ตามที

ผู้คนแถวนั้นโดยเฉพาะหญิงสาวที่ผ่านไปมาเป็นประจำเริ่มหวาดกลัว หวาดกลัวจนมีใครสักคนแจ้งตำรวจให้มาจัดการปัญหา ตำรวจใช้วิธีการไล่เขาให้พ้นจากศาลพระภูมิหน้าอะพาร์ตเมนต์และให้ไปอยู่อาศัยในพื้นที่รกร้างว่างเปล่าริมถนนสุขุมวิท แต่พ่อของชายหนุ่มยังตามมาดูแลหาข้าวหาน้ำไม่เคยเว้นวัน 

ไม่นาน!!! ตำรวจถูกแจ้งมาให้จัดการเรื่องกับชายหนุ่มอีกครั้ง คราวนี้เขาถูกนำส่งไปยังโรงพยาบาลจิตเวชเป็นครั้งแรก หมอบอกว่าเขามี ”อาการทางจิต” หลังตรวจหมอให้กลับบ้าน บ้านที่ผู้ป่วยเองไม่มีอยู่จริง เขากลับไปพร้อมกับถุงยาถุงใหญ่ที่ชายหนุ่มก็ไม่ได้กินหลังจากนั้น

ไม่กี่วันตำรวจและอาสากู้ภัยก็ต้องกลับมาทำหน้าที่ส่งตัวผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลจิตเวชเป็นครั้งที่สอง เป็นครั้งที่สองที่เกิดจากพฤติกรรมที่ยังไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม หมอตรวจ… หมอจ่ายยาจิตเวชถุงใหญ่ให้และย้ำพ่อของชายหนุ่มมาว่า ”ให้กินยาเป็นประจำ” ชายหนุ่มกลับมาอยู่ที่รกร้างว่างเปล่าริมถนนสุขุมวิทเหมือนเคย พ่อของชายหนุ่มกลับไปใช้แรงงานทุกวันเช่นเดิม ยังคงวิ่งวนมาหาลูกชายเขา 3 เวลา แต่ยาในถุงยังคงเต็ม

ที่สำคัญชายหนุ่มยังเปลือยร่างในที่รกร้างว่างเปล่าริมถนนสุขุมวิทเหมือนเดิม!!!!

แปดด้านที่มืดมิด…

พ่อ…ยังคงคอยมาดูแลลูกชายของตัวอยู่ทุกวัน วันละ 3 เวลา

พ่อ…ยังคงออกมาชะเง้อมองลูกชายตอนค่ำคืนเพราะกังวลว่าจะมีคนมาแกล้งทำร้ายลูกเช่นที่เคยเป็นมา

พ่อ…ยังคงไม่รู้จะทำอะไรมากไปกว่านี้ได้ เพื่อให้ลูกชายมีชีวิตที่ดีขึ้น เพราะลำพังแค่ที่ซุกหัวนอนของตัวยังเป็นเรื่องยาก เวลาที่หมดไปทั้งวันกว่า 12 ชั่วโมงในฐานะแรงงานค่าแรงขั้นต่ำที่ไม่รู้จะเอาเวลาที่ไหนไปดูแลลูกที่เป็นผู้ป่วยจิตเวชขั้นสุดได้

พ่อเองก็นึกไม่ออกว่าจะมีกลไกไหนของรัฐที่จะมาช่วยผ่อนความหนักหนาในแบบที่เขาเผชิญอยู่ให้กลายเป็นโปร่งเบาได้บ้าง

คนเป็นพ่อนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก!!!!