1 ปีของความเป็นพ่อ : สิ่งที่สำคัญในโลกนี้ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตา - Decode
Reading Time: < 1 minute

ประกายไฟลามทุ่ง

รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี

ในวันที่พ่อเขียนจดหมายฉบับนี้ ลูกเพิ่งจะหัดเดิน ก้าวเล็ก ๆ ของลูกยังไม่มั่นคงนัก แต่ดวงตาของลูกเปล่งประกายด้วยความอยากรู้อยากเห็นในทุกสิ่ง ทุกครั้งที่ลูกทำตัววุ่นวาย หยิบจับสิ่งของไปทั่ว หรือร้องไห้งอแงเพราะอยากให้พ่อกับแม่อุ้ม นั่นคือภาษาที่ลูกบอกว่าลูกต้องการเรา ต้องการความรัก การโอบอุ้ม และการดูแล เวลาที่ลูกทำร้องไห้งอแง เวลาที่ลูกดื้อ พ่อไม่เคยรำคาญเลย เพราะพ่อรู้ว่านั่นคือภาษาของหัวใจที่กำลังเรียนรู้โลก กำลังค้นหาตัวเอง กำลังต้องการความเข้าใจ

โลกของผู้ใหญ่อาจจะวุ่นวายกับการไล่ตามความสำเร็จ โลกของพ่อมีอะไรที่ดูสำคัญใหญ่โต แต่โลกของหนูในไม่กี่ปีข้างหน้านี้ พ่อเป็นแกนกลางของจักรวาล สำหรับลูกสาวพ่อ พ่ออยู่ด้วยก็คือพ่อรักหนู เป็นเรื่องง่าย ๆ ที่บางครั้งพ่ออาจลืมไป แต่มนุษย์ถูกทำให้ลืมเรื่องง่ายเท่านี้ เราแบ่งแยกสังคมออกจากกัน โดยลืมไปว่าเรามีสิ่งพื้นฐานที่ควรได้จากกันฟรี ๆ โดยไม่ต้องมีมูลค่าราคาใด

โลกที่ลูกจะเติบโตขึ้นมานี้ มักให้คุณค่ากับสิ่งที่จับต้องได้ วัดได้ และตีราคาเป็นตัวเลข ผู้คนวิ่งไล่ตามความสำเร็จที่ถูกนิยามด้วยเงินทอง ตำแหน่ง หน้าที่การงาน แต่พ่ออยากให้ลูกรู้ว่า สิ่งที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตนั้น กลับเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตา เวลาที่ลูกหัวเราะ ความสุขที่แผ่ซ่านในหัวใจพ่อนั้น ไม่มีใครตีราคาได้ เวลาที่ลูกหัวเราะแล้ววิ่งมากอดพ่อ ความอบอุ่นนั้นไม่มีเงินซื้อได้ และเวลาที่ลูกหลับอย่างเป็นสุขในอ้อมกอดของพ่อกับแม่ ความรู้สึกนั้นล้ำค่าเกินกว่าจะวัดได้ด้วยตัวเลขใด ๆ

พ่อได้พบเจอคนดี ๆ มากมายในปีนี้ คนดี ๆ ที่ไม่ใช่ว่าพวกเขานำเงินทองหรือของมีค่ามาให้เรา แต่คนดี ๆ เหล่านั้นคือคนที่รู้สึกเจ็บปวดกับเรื่องราวของผู้อื่น ถึงความทุกข์ยากของเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตัวเอง คนดี ๆ ที่พร้อมจะเสียน้ำตาให้กับความเจ็บปวดของมนุษยชาติ โลกใบนี้พิมพ์เงินมาวันละหลายแสนล้านบาท แต่มันไม่ได้ทำให้โลกใบนี้ดีขึ้นแต่อย่างใด มีคนมีอำนาจมากมายเข้ารับตำแหน่งทุกวัน แต่พวกเขาก็สร้างความขัดแย้ง กดขี่และคร่าชีวิตผู้คนแทบทุกวัน เงินทองและตำแหน่งอำนาจจึงเป็นของธรรมดาสามัญของโลกนี้ มีก็ได้ ไม่มีก็ไม่ทำให้อะไรแตกต่างไป แต่ถ้าชีวิตของหนูได้เจอคนดี ๆ ตามคุณสมบัติที่พ่อได้บอกไป พวกเขามีค่ายิ่งกว่าอัญมณีใด ๆ ในโลก เพราะพวกเขาสามารถคืนความหมายให้แก่ชีวิตเรา คืนความหมายให้แก่ชีวิตคนรอบข้าง เปลี่ยนโลกที่สิ้นหวังให้เปี่ยมหวังได้

บางครั้งพ่อก็คิดถึงอนาคต วันที่ลูกจะเติบโตขึ้น วันที่ลูกจะมีเหตุผลของตัวเอง วันที่ลูกอาจจะไม่ต้องการให้พ่อจูงมือเดินอีกต่อไป ระบบทุนนิยมอาจจะพยายามหล่อหลอมให้ลูกวิ่งตามความสำเร็จแบบที่สังคมกำหนด แต่พ่ออยากให้ลูกรู้จักมองหาความหมายที่แท้จริงของชีวิต พ่ออยากให้ลูกรู้ว่า โลกที่ลูกจะเติบโตขึ้นไปนั้น ไม่ควรจะเป็นโลกที่วัดคุณค่าของมนุษย์ด้วยตัวเลขในบัญชีธนาคาร ไม่ควรเป็นโลกที่เด็ก ๆ ต้องแบกรับภาระการแข่งขันที่โหดร้าย เราทุกคนในสังคมนี้ควรจะร่วมกันสร้างระบบที่เกื้อกูลที่ให้ความสำคัญกับคุณค่าของความเป็นมนุษย์มากกว่าตัวเลขกำไรขาดทุน

เมื่อลูกโตขึ้น ลูกจะเข้าใจว่า “รัฐสวัสดิการ” ไม่ใช่แค่ระบบที่รัฐจัดสรรทรัพยากรให้ประชาชน แต่มันคือการที่สังคมตระหนักว่า คุณค่าของชีวิตมนุษย์นั้นสูงส่งเกินกว่าจะวัดด้วยตัวเลข มันคือการที่เราทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่า การดูแลกันและกัน การสร้างโอกาสให้ทุกชีวิต คือหน้าที่ที่เราพึงมีต่อกัน

พ่อเชื่อว่าความรักและการดูแลเป็นสิ่งที่ทุกคนสมควรได้รับ เหมือนที่หนูได้รับจากพ่อกับแม่ ไม่ใช่เพราะหนูทำอะไรถูกหรือผิด ไม่ใช่เพราะหนูเป็นเด็กเรียนดีหรือเก่ง แต่เพราะหนูเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ที่มีศักดิ์ศรีและคุณค่าในตัวเอง ระบบทุนนิยมพยายามสอนให้เราเชื่อว่า ทุกอย่างต้องแลกมาด้วยการแข่งขัน ด้วยความสามารถ ด้วยผลงาน แต่ความจริงแล้ว มนุษย์เราควรได้รับการดูแลพื้นฐานโดยไม่มีเงื่อนไข

บางคนอาจบอกว่านี่เป็นความฝันที่เป็นไปไม่ได้ แต่พ่อเชื่อว่า ถ้าเราทุกคนช่วยกัน เราสามารถสร้างสังคมแบบนี้ได้ เหมือนที่ตอนนี้หนูกำลังเรียนรู้ที่จะเดิน ทีละก้าว ทีละก้าว แม้จะล้มบ้าง สะดุดบ้าง แต่ก็ลุกขึ้นเดินต่อไป การเปลี่ยนแปลงสังคมก็เช่นกัน ต้องอาศัยความพยายาม ความอดทน และที่สำคัญคือความหวังและความเชื่อมั่นว่า เราทำได้

โลกอาจจะสอนให้หนูคิดว่า ความสำเร็จวัดได้จากเงินในบัญชี ตำแหน่งหน้าที่ หรือทรัพย์สินที่มี แต่พ่ออยากให้หนูรู้ว่า ความสำเร็จที่แท้จริงคือการที่เราสามารถสร้างความแตกต่างให้กับชีวิตผู้อื่น การที่เราสามารถทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้นแม้เพียงเล็กน้อย และการที่เราสามารถรักษาความเป็นมนุษย์ที่งดงามไว้ได้ ท่ามกลางกระแสวัตถุนิยมที่พยายามกลืนกินทุกสิ่ง วันหนึ่งเมื่อลูกโตขึ้น ลูกอาจจดจำช่วงขวบปีแรกของลูกไม่ได้ แต่ทุกสิ่งที่พ่อกับแม่สัมพันธ์กับหนูมาติดในชีวิตหนูไปทั้งชีวิต และในภาพใหญ่ระบบสวัสดิการที่ดีจะหล่อหลอมให้ลูกเติบโตเป็นคนที่เห็นคุณค่าของสิ่งที่มองไม่เห็น เป็นคนที่พร้อมจะสร้างสังคมที่ให้ความสำคัญกับความเป็นมนุษย์มากกว่าตัวเลข