สิ่งที่ AI แทนมนุษย์ไม่ได้ - Decode
Reading Time: < 1 minute

ประกายไฟลามทุ่ง

รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี

ในช่วงปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ได้เข้าถึงผู้คนจำนวนมากโดยเฉพาะ AI ประเภท Large Language Model ที่เข้าถึงคนทั่วไปในการสร้างและเรียบเรียงข้อมูล การตอบคำถามและสนทนาพื้นฐาน เมื่อรวมกับ AI ที่สามารถสร้างภาพขึ้นมาจากคำสั่งที่ผู้ใช้ต้องการ ดูเหมือนว่า AI จะก้าวเข้ามาแทนมนุษย์ได้ในหลายมิติ และด้วยชุดข้อมูลที่มนุษย์ป้อนเข้าไปเพิ่มเติมอย่างมหาศาลก็ทำให้ความแม่นยำของ AI ย่อมมีมากขึ้น

ไม่นานมานี้ สราวุธ เฮงสวัสดิ์ นักเขียนนามปากกา นิ้วกลม ได้เปิดบทสนทนาของเขากับ AI ซึ่งสราวุธ ได้แสดงให้เห็นว่า AI มีความพยายามทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ไม่ตัดสิน ไม่ใช้อคติ อธิบายอย่างใจเย็น และไม่ใช้ข้อมูลใดที่มีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดความขัดแย้ง กล่าวคือ AI ดูเหมือนจะพยายามทำความเข้าใจมนุษย์ไปพร้อมกัน ที่ไม่ใช่เพียงแค่ตอบสนองต่อคำสั่งหรือคำถามเดียว ซึ่งก็เป็นประเด็นที่น่าคิดว่าในระบบบทุนนิยมที่มนุษย์ถูกกลืนกินและสูญเสียตัวตน เราสูญสิ้นความสามารถในการแสดงความเห็น สูญเสียเวลาที่ไม่สามารถใคร่ครวญต่อสิ่งที่สำคัญได้ AI ก็ได้ขยับมาทำหน้าที่ของมนุษย์ที่หายไป

คำถามคือ มีอะไรที่ AI ไม่สามารถทำแทนมนุษย์ได้ ?

AI คือเทคโนโลยีหนึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาการผลิต ในแง่แรงงานมันทำให้ช่องว่างระหว่างแรงงานทักษะกับไร้ทักษะน้อยลง แต่กระนั้นก็มีหลายอย่างที่ AI ไม่สามารถแทนที่มนุษย์ได้

  1. งานสร้างสรรค์ที่ลึกซึ้ง แน่นอนว่า AI สามารถวาดภาพได้ สามารถเขียนบทกวีได้ แม้แต่พล็อตนิยายก็วางได้ แต่ลักษณะของ AI คือการเขียนจากความน่าจะเป็นสูงสุดจากคำสั่ง แต่บทกวี วรรณกรรม ศิลปะ และดนตรีที่ต้องใช้แรงบันดาลใจและจินตนาการ ทั้งมีเหตุผลและไร้เหตุผล ผิดเพี้ยน ถูกต้อง ท้าทายสุนทรียภาพของยุคสมัย เพื่อแสดงถึงความเป็นไปได้ของความงามความไพเราะ การตีความที่ผู้คนยังไม่รู้จัก ยังไม่ยอมรับ มันจึงเป็นมากกว่าการรวบรวมความน่าจะเป็นของบทกวีที่ไพเราะ หรือภาพน้ำตกที่สวยงาม
  2. การตัดสินใจเชิงจริยธรรมที่ซับซ้อนมากกว่ากำไรขาดทุน แพ้ ชนะ สำเร็จ หรือล้มเหลว หรือได้รับการยอมรับหรือไม่ การตัดสินใจเชิงจริยธรรม อาจไม่ได้เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ไม่ถึงกับชีวิต แต่คือการยืนยันหลักการบางอย่างที่อาจต้องแลกกับเงื่อนไขที่ไม่สมเหตุสมผลทางเศรษฐกิจ ทางการเมือง หรือทางศีลธรรม แต่การพิจารณาหลักการทางจริยธรรม อาจไม่สมเหตุสมผลสำหรับคนในศตวรรษหนึ่งก่อนที่จะกลายเป็นเรื่องปกติในศตวรรษถัดมา มนุษย์มีความสามารถในการนำเสนอสิ่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเลิกทาส การสร้างระบบการศึกษา การรักษาพยาบาลสำหรับทุกคน การร้องไห้เสียน้ำตากับความยากจนของคนที่เราไม่รู้จัก หรือแม้กระทั่งหากย้อนไป มนุษย์ยุคหินคนแรกที่อุ้มเพื่อนที่กระดูกหักกลับถ้ำแม้จะทำให้ตัวเองมีความเสี่ยงที่จะถูกสัตว์ร้ายลากไปกินมากขึ้น มนุษย์ก็ยังตัดสินใจที่จะทำ
  3. ความเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์อย่างละเอียดลึกซึ้ง เช่น ความปรารถนา ความหวัง ความกลัว ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์ชีวิตจริง ความปรารถนา ความหวังเป็นสิ่งที่ไม่สามารถ Copy -Paste ได้ มนุษย์เรียนรู้สิ่งนี้ด้วยประสบการณ์เฉพาะตัว แม้ระบบชนชั้นจะสามารถกำหนดความหวังของคนรวยและคนจนให้มีรูปแบบที่คาดเดาได้ แต่ก็ไม่สามารถอธิบายได้ว่า เหตุใดมนุษย์ที่ล้มเหลวในการต่อสู้มานับทศวรรษถึงสามารถคาดหวังให้การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดเกิดขึ้นได้ในไม่กี่สัปดาห์ ทำไมเราสามารถต่อสู้เรียกร้องเพื่อสิ่งที่เราจะไม่ได้ใช้ประโยชน์จากมัน แม้เราจะตายก่อน และแม้เราจะไม่เชื่อเรื่องโลกหลังความตายด้วยซ้ำ เพราะความปรารถนาเป็นความสัมพันธ์เชิงคุณภาพที่ไม่มีขีดจำกัดตายตัว เช่นเดียวกับความหวัง และความกลัว
  4. การดูแลและให้ความรักความเมตตาอย่างแท้จริงต่อผู้อื่น AI และเทคโนโลยีต่าง ๆ สามารถทำตามคำสั่งได้อย่างผิดพลาดน้อยที่สุด ปราศจากอคติที่สุด แต่ในความรัก และความเมตตา ไม่ได้มีเหตุผลขนาดนั้น เหมือนดังที่ Hegel กล่าวไว้ว่า “เมื่อแรกที่ข้าพเจ้ามีความรัก ข้าพเจ้าเห็นตัวเองในอีกฝ่าย และอีกฝ่ายเห็นตัวเองในข้าพเจ้า” ความรักเป็นเงื่อนไขที่วัดประเมินไม่ได้ ความเมตตาก็เช่นกัน มันมีความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ในความรัก มีความไม่สมเหตุสมผลได้ในความเมตตา เหมือนที่ ลีโอ ตอลสตอย กล่าวว่า หากเรารู้สึกเจ็บแปลว่าเรามีชีวิต แต่หากเราเจ็บปวดกับผู้อื่นนั่นคือเครื่องยืนยันความเป็นมนุษย์ของเรา ความเจ็บปวดที่ว่านี้อาจไม่สมเหตุสมผล อาจไม่จำเป็น อาจนำสู่ความผิดพลาด แต่มันคือการคำนึงถึงคุณค่าพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ที่ยังมิอาจแทนได้

คำตอบสำคัญคือ เราควรพยายามเอาชนะ AI หรือไม่

หรือ ควรกลัว AI เข้ามาแทนที่เราหรือไม่

คำตอบสำหรับผู้เขียนคือ ไม่ใช่ เพราะเงื่อนไขสำคัญ สี่ด้านที่ได้ยกมาคือเงื่อนไขพื้นฐานที่มนุษย์มีตั้งแต่ก้าวออกจากถ้ำ และยืนตัวตรง สิ่งที่ทำลายความเป็นมนุษย์ที่ผมได้ยกมา ไม่ได้เกิดจาก AI แต่เกิดจากประดิษฐกรรมอื่นก่อนหน้าของมนุษย์เอง ไม่ว่าจะเป็น “รัฐผูกขาด” “สงคราม” “ระบบทุนนิยม” “อำนาจนิยม” หากมนุษย์ปฏิเสธสิ่งเหล่านี้ได้ เราก็จะสามารถใช้ AI เพื่อตอบสนองต่อความเป็นมนุษย์พื้นฐานของเราให้สมบูรณ์มากขึ้นได้