
อย่าทิ้งฉันไว้ในออฟฟิศ แอร์หนาว ตึกร้าว-สั่นไหว
ให้ฝังฉันไว้ที่ชายฝั่งทางโน้น
เบื้องหน้า มหาสมุทร
เบื้องลึก คือความพ่ายแพ้ในระบบทุนนิยม
……………………………………………….
ฉัน คือรอยเท้าแห่งกาลเวลา
เดินฝ่าความมืดมาค่อนชีวิต
ไม่ยอมให้อดีตผ่านไปได้โดยไม่ทิ้งร่องรอย
ปล่อยให้สำนึกเป็นเช่นโน้ต D# Bb G# บรรเลงเพลงแห่งสรวงสวรรค์
เรียกข้าให้เข้าไปใกล้ ใบไม้ หิน ทรายและขี้โคลนพร้อมใจ
ทอดกายให้คลื่นที่ชายฝั่ง… ชำระอดีตหมดสิ้น
แม้กลิ่นฝันที่จากไปในวัย 40
ฉันเขียนไว้ในหน้ายี่สิบสองของไดอะรีสีหาดในเพลา บางขณะฉันนับมันเป็นส่วนเสี้ยวของการแสวงหา เป็นส่วนใหญ่ของการรับใช้เรือนดินที่พระผู้สร้างก่อไว้เป็นศิลามุมเอก นอกจากพระคัมภีร์ฉันตั้งใจหยิบเล่มนี้ใส่กระเป๋าเดินทาง —ไปนอนหาดในวันหยุดยาวอย่างตั้งใจ ไม่บังเอิญ ในสัปดาห์อันศักดิ์สิทธิ์
ใช่ คลื่นนั้นไหม สัญญะอันยอกย้อนของ “การเดินทางกลับบ้านไปด้วยกัน บทสนทนาว่าด้วยการรักและการตาย” ราวกับฉันได้เป็นเจ้าภาพร่วมกับรามทาส ในงานเลี้ยงที่เชื้อเชิญทุกคนมาเข้าร่วมมหรสพแห่งความตาย กอบกำอากาศลม มือทาบอก รักนะ 300% ฉันบอกรักตัวเองเบา ๆ มันเป็นความตายแบบไหนกันนะที่พวกเขาเป็นพยานว่า รักนั้นทรงพลังมากกว่าความตาย
เพราะทั้งหมดของงานเลี้ยง คือเรื่องของรัก ไม่ใช่ความเปื่อยเน่าของธุลีดิน
“รักมาจากความไพศาลและเป็นเช่นนั้นตราบนิรันดร์ ผู้แสวงหารัก พ้นแล้วจากโซ่ตรวนการเกิดและการตาย” เขาปักใจเชื่อเมื่อคนที่คุณรักตาย รักก็ยังอยู่ เขากำลังแสวงหาการเป็นหนึ่งเดียวกับมหาสมุทร ถ้าเขาตาย
อย่าพูดว่าเขาไปแล้ว เขาไปแล้ว
ความตายไม่ใช่การไป ตายคือกลับมารวมกัน
หลุมฝังศพนั้นราวกับคุกขัง
ทั้งที่จริงแล้ว ปลดปล่อยสู่การรวม

คลื่นทุกลูกเป็นคลื่นใหม่ทั้งนั้น มันเปลี่ยนการแบ่งแยกเป็นการเชื่อมโยงด้วยการฝึกรักและกรุณา ยิ่งเราอยู่กับวิญญาณมากเท่าใด เราก็จะรักทุกที่ ที่เรามอง พวกเขาแหวกว่ายอยู่ในมหาสมุทรรัก ที่นี่ไม่มีการแบ่งแยก ไม่มีแผ่นดินไหว ไร้ความกลัว มันเป็นพรก่อนเดินทางที่พวกเขาไปร่วมงานศพของเพื่อนชาวอเมริกันเชื้อสายไอริช ผู้คนเล่าเรื่องราวว่าตอนนี้คนตายอยู่สุขสบายกับพ่อแม่และปู่ย่าตาทวดในสวรรค์ บางขณะบรรเลงเพลง “Just Closer Walk with Thee” เถ้ากระดูกก็ถูกโปรยลงไปในมหาสมุทรแล้วกลับเข้าฝั่ง รามทาสจินตนาการถึงรัก “รักชำระคุณเหมือนคลื่นที่ชายฝั่ง…..”
อาจารย์เซนประพันธ์บทกวี รินโปเซเตือนว่าอย่าลืม ชีวิตผ่านไปไว —เหมือนฟ้าแลบฤดูร้อน หรือการโบกมือ รามทาสสนทนาตอบ อยู่กับปัจจุบันขณะ รู้ว่าขณะนั้นไม่ได้อยู่ในกาลเวลา ไม่ได้อยู่ในโลกของนาฬิกา ขณะนั้นเป็นเวลาของวิญญาณ อยู่กับวิญญาณแล้วคุณจะพร้อมอยู่กับขณะที่ตาย คุณรู้เมื่อเวลานั้นใกล้เข้ามาแล้ว เมื่อพระคริสต์ตรัส “เรากำลังเป็นสิ่งใหม่” ก็เหมือนกับการอยู่ที่นี่ เดี๋ยวนี้ และเริ่มสิ่งใหม่ในทุกขณะ
แม้ขณะฝังตัวเองไว้ที่บนผืนทราย ฉันก็ได้มอบความพ่ายแพ้ให้กับคลื่นที่ชายฝั่ง…
เอลียา…เจ้ามาทำอะไรที่นี่ เสียงที่ฉุดดึงเอลียาออกมาจากถ้ำของความข่มขื่นใจ หรือแม้แต่คำถามสามครั้งที่พระเยซูถามเปโตร “เจ้ารักเรารึป่าว” เหนี่ยวรั้งความสงสัยและละอายแก่ใจที่จะติดตามพระองค์ไป —ไม่ว่าใครก็ต้องฝ่าฤดูดำไปให้ได้ ฉันคิด
ศิโรราบมอบให้คลื่นที่ชายฝั่ง… ชำระหมดจด
ทุกสิ่งก็เป็นสิ่งใหม่ การตายก็เป็นอีกขณะหนึ่ง และมนุษย์ก็เป็นความมหัศจรรย์เดียวในโลกที่เกิดใหม่ได้ทุกขณะ
“สุดท้ายแล้วมันก็เหมือนการกลับบ้าน กลับไปหาเพื่อนเก่าที่รู้จักและรักผมอย่างเต็มเปี่ยม” รามทาสเอ่ย
แล้วเดินกลับบ้านด้วยกันนะ คำเชื้อเชิญให้สำรวจและตรวจสอบคลื่นในชายฝั่งของตัวเอง ทั้งหมดจด ลึกซึ้ง และกว้างไกล เพื่อกลายเป็นส่วนหนึ่งของความเร้นลับอันไกลโพ้น และทิ้งฉันไว้กับอุดมคติที่ยังคงก้องกังวานในใจราวกับถูกคลื่นซัดเข้าสู่ห้วงยามของความเป็นความตายมันไม่ยอมให้เราผ่านไปได้โดยไม่ทิ้งร่องรอย

Playread : เดินกลับบ้านไปด้วยกัน : Walking each other home
ผู้เขียน : รามทาส, มิราไป บุช
จัดพิมพ์ : สวนเงินมีมา
PlayRead : คอลัมน์แนะนำหนังสือประจำ Decode.plus เมื่อกองบรรณาธิการขอ add หนังสือ (ที่อยากอ่าน) ไว้ในเพลย์ลิสต์ พบกับหนังสือหลากหลายสไตล์ หลากหลายวิธีการเล่าเรื่องที่เชื่อมร้อยกับชีวิตและสังคม แวะมาหาอ่านกันได้ทุกเย็นวันพฤหัสบดี