ประสบความสำเร็จในชีวิต - Decode
Reading Time: < 1 minute


ประเทศเต็มไปด้วยคำตอบอันปราศจากคำถาม

วีรพร นิติประภา

เวลาใครถามพ่อแม่ว่าอยากให้ลูกโตขึ้นเป็นอะไร ร้อยทั้งร้อยจะตอบว่าเป็นอะไรก็ได้…ขอให้ลูกมีความสุข พอถามว่าลูกแบบมีความสุขนั่นน่ะเป็นแบบไหน คำตอบก็คือประสบความสำเร็จในชีวิต

แล้วไอ้เจ้าวลี ‘ประสบความสำเร็จในชีวิต’ ก็แสนจะคลุมเครือ ได้เงินเดือนสูง…อาจจะ แต่แค่ไหนถึงเรียกว่าสูง ทำงานในบริษัทมั่นคง แล้วบริษัทมั่นคงคือยังไง  ใหญ่…หรือใหญ่แค่ไหน ข้ามชาติอินเตอร์แนชันนัลหรือระดับประเทศ หรือมีตำแหน่งสูงก็พอ ตำแหน่งอะไร  หรือจะเป็นคนดัง …ในยูทูบ ในสื่อ หรือในติ๊กต่อก หรือเป็นดารา นักร้อง นักการเมือง แต่ที่แน่ ๆ ก็คือจะประสบความสำเร็จด้านไหนอย่างไร ผลลัพธ์สุดท้ายก็คือเป็นคนมีเงินนั่นแหละ

มองลึกลงไปจะเห็นว่าที่สังคมเราให้ความสนใจเงินมากกว่าอย่างอื่น ทั้ง ๆ ที่มีสิ่งต่าง ๆ อีกมากมายที่ทำให้คนมีความสุขได้ และนั่นก็เพราะเราเป็นประชากรที่อยู่ด้วยความกลัว

เรากลัวตั้งแต่เด็ก กลัวสอบตก กลัวติดเกม…ติดยา…มีแฟน กลัวท้อง กลัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ สอบได้ก็กลัวเรียนไม่จบ เรียนจบก็กลัวหางานทำไม่ได้ มีงานก็กลัวไม่ก้าวหน้า…ไม่ได้เลื่อนขั้น…เงินเดือนน้อย เสร็จก็กลัวไม่มีแฟน กลัวได้แฟนไม่ดี มีแฟนก็กลัวแฟนทิ้ง กลัวไม่มีหลักมีฐาน จะซื้อบ้านก็กลัวผ่อนไม่ไหว มีบ้านก็กลัวตกงานเพราะต้องผ่อนบ้าน ไม่นับกลัวป่วย กลัวโรคระบาด กลัวถูกรถชน กลัวลูกถูกจับตัว กลัวมิจฉาชีพหลอกลวง กลัวอาหารปนเปื้อน กลัวกระทั่งหายใจแล้วเป็นมะเร็งตาย

ชีวิตคนไทยคือซีรีส์ของความกลัวต่อเนื่อง จนยากจะทำใจให้เชื่อว่าเราจะมีเรื่องให้กลัวกันได้มากขนาดนั้น และเราคุณก็หมกหมุ่น กลัวทุกสิ่งทุกอย่างโดยไม่ทันหยุดคิดเลยว่า ความกลัวนั้นมาจากการเป็นประชากรที่มีชีวิตไร้ความมั่นคง

ความมั่นคงในชีวิตแปลง่าย ๆ ว่า คนคนหนึ่งจะต้องสามารถใช้ชีวิตปรกติโดยปราศจากความวิตกกังวลว่าจะขาดแคลนปัจจัยพื้นฐาน …มีอาหารน้ำดื่มสะอาดบริโภค มีอากาศบริสุทธิ์ให้หายใจ มีที่อยู่อาศัยเป็นสัดส่วน ไม่แออัด มีสาธารณูปโภคครบครัน มีขนส่งมวลชนให้เดินทางสะดวกในราคาต่ำ มีพื้นที่สาธารณะให้หย่อนใจและออกกำลังกาย มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพทย์สิน ได้รับการเจือจานให้อยู่รอดยามตกงาน เกื้อกูลเมื่อทุพพลภาพ เข้าถึงการรักษาในสถานพยาบาลมาตรฐานยามเจ็บไข้ และได้รับการดูแลให้แก่ตัวลงและจากไปอย่างมีศักดิ์ศรี

และในฐานะมนุษย์หนึ่งคน เรายังต้องการมากกว่านั้น  …เราต้องการความหวัง ต้องการมีความรู้ความสามารถที่จะยกระดับความเป็นอยู่ของตัวเองได้ ซึ่งก็แปลว่าเราต้องได้รับการศึกษาอย่างน้อยก็ขั้นพื้นฐาน …ฟรี และทั่วถึงเท่าเทียม ต้องการมีงานรองรับตามความถนัดและศักยภาพ รวมทั้งได้รับค่าตอบแทนเหมาะสมกับขีดขั้นความสามารถ

เหล่านี้คือสิ่งที่เรียกว่า ’รัฐสวัสดิการ’ ซึ่งประชากรทุกคนควรได้รับในฐานะผู้จ่ายภาษี   

เศรษฐกิจของประเทศที่ผ่านไม่เพียงแต่ถดถอยเรื้อรังยาวนาน แต่ยังทวีความรุนแรงสาหัสขึ้นตามวัน การไร้รัฐสวัสดิการที่ดีพอเกื้อหนุนยังทำให้ความอัตคัดขัดสนฉุดสังคมให้ยิ่งตกต่ำ เป็นที่มาของปัญหาอื่น ๆ อีกมากมาย …ยาเสพติด การพนัน ลักขโมย ปล้น คดโกง  การหลอกลวงต่าง ๆ จนถึงระบบมาเฟียที่ไล่ลามตั้งแต่ระดับอันธพาลคุมซอยไปจนขบวนการอาชญากรรมร้ายระดับโลก สำทับซ้ำด้วยระบบทุนผูกขาดและการเมืองเล่นพรรคพวก ความเหลื่อมล้ำที่ยิ่งถ่างกว้าง …วนลูปเป็นงูกินหาง  

ประชาชนแทบไม่ต้องหวังถึงศีลธรรมจรรยา ทัศนคติสร้างสรรค์ หรือกระทั่งจะสามารถมีสังคมแวดล้อมที่มีสภาพสุขภาพจิตเป็นปกติ

แล้วชีวิตที่มีความสุขคืออะไร เราอาจนิยามชีวิตที่มีความสุขได้คร่าว ๆ ว่า คือชีวิตที่คนคนหนึ่งได้เป็นคนอย่างที่อยากเป็น ทำงานที่อยากทำ อยู่ในที่ที่อยากอยู่ ซึ่งแน่นอน…การมีเงินก็เป็นเรื่องที่ดี แต่กระนั้นการมีชีวิตที่มั่งคั่งมั่นคงกับการมีชีวิตที่มีความสุขก็ยังเป็นคนละเรื่องเดียวกัน มีหลายสิ่งสำคัญที่เงินซื้อหาไม่ได้ …ความรัก  ครอบครัวที่อ่อนโยน เกื้อกูลและเป็นพลังให้กันและกัน  มิตรภาพจริงแท้แนบแน่น การได้รับความนับถืออย่างจริงใจ ความภาคภูมิในคุณค่าของตัวเอง …และเวลา 

เวลาที่จะได้อยู่ใกล้ชิดสร้างความสัมพันธ์กับผู้คนและฟูมฟักสิ่งที่เงินซื้อหาไม่ได้เหล่านั้น รวมทั้งเวลาที่จะได้รู้จักตัวเองผ่านความสัมพันธ์ต่าง ๆ เวลาที่จะได้มองเห็น  รื่นรมย์และชมชื่นสิ่งอื่น ๆ ที่ชีวิตหยิบยื่นให้ รวมทั้งทำความเข้าใจกับโลกที่รังแต่จะซับซ้อนขึ้นทุกที ยิ่งกว่านั้นการมีชีวิตโดยมีความมั่งคั่งเป็นเป้าหมายแต่เพียงอย่างเดียว ยังทำให้เรามืดบอดต่อความเป็นไปได้มากมาย ไม่แต่จะเป็นคนอย่างที่อยากเป็น คนจำนวนมากไม่ได้มีโอกาสรู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองอยากเป็นอะไร  อยากมีชีวิตอยู่แบบไหน ทำอะไร อยากเห็นโลกแบบไหน   

การมองเห็นความเป็นไปได้อันเป็นอนันต์ของชีวิตยังเป็นเรื่องสำคัญกว่าที่เราเข้าใจกัน มันจะเปิดดวงตาให้คนคนหนึ่งเห็นว่าชีวิตของเขาจะไม่มีวันอับจนหนทาง หากอะไร ๆ ไม่ได้เป็นอย่างที่เขาต้องการ มันยังมีเส้นทางอื่นให้เลือกไปต่ออยู่เสมอ หากชีวิตการงานไม่ดี หากทำเงินไม่ได้มาก ๆ ก็ยังมีชีวิตด้านอื่น ๆ สิ่งดีงามอีกมากมายที่รื่นรมย์

เริ่มต้นจากการต้องพยายามที่เอาชีวิตรอดในประเทศรัฐสวัสดิการต่ำ …ที่ไม่ดีพอรองรับโอบอุ้มประชากรตั้งแต่เกิดไปจนวันสุดท้าย เราจึงเห็นคนล้มที่ลุกยืนและไปต่อไม่ได้ เราจึงเห็นคนมากมายที่จำนน อับจนหนทาง และสิ้นหวัง เราจึงเห็นศักยภาพที่ถูกทำให้สูญเปล่าและทำให้ผู้คนกลายเป็นประชากรคุณภาพต่ำ ทำงานที่ตัวเองไม่ชอบ ไม่เห็นคุณค่า ไม่เคยมีโอกาสและเวลามากพอที่จะรู้จักตัวเอง ไม่มีโอกาสได้ทำในสิ่งหลงใหลใฝ่ฝัน และถนัด พัฒนาตัวเองขึ้นสู่ผลเลิศของมนุษย์คนหนึ่ง

ทั้งชีวิตคือทำงานหามาได้แค่เงิน จ่ายภาษี แต่กระนั้นก็ยังคงหวาดกลัวและวิตกกังวลไปหมดไม่จบสิ้น เพื่อที่จะตายจากไปโดยไม่ได้สร้างสรรค์สิ่งใดทิ้งไว้ข้างหลัง  แล้วไหนกัน …ชีวิตที่มีความสุขที่พ่อแม่เคยมุ่งหวังและปลูกฝังมาให้เรา