วิทย์อวกาศในแบบเรียน - Decode
Reading Time: < 1 minute

Space for Thai

นิศาชล คำลือ

ครูเอหายใจเข้าลึกกว่าปกติเล็กน้อยก่อนที่จะพูดพลางหัวเราะออกมาแบบติดตลกว่า

“พึ่งลาออกมาเลยค่ะ”

เธอเคยเป็นคุณครูสอนวิชาชีววิทยาระดับมัธยมปลายให้กับโรงเรียนแห่งหนึ่ง ก่อนที่จะตัดสินใจย้ายโรงเรียนและได้มาเป็นครูสอนวิชาวิทยาศาสตร์ให้กับเด็กนักเรียนชั้นประถมต้น

ความแตกต่างของเด็ก 2 วัย

ครูเอเล่าให้ฟังว่าตอนที่เธอสอนนักเรียนระดับมัธยม ความยากคือเนื้อหาที่ซับซ้อน อีกทั้งเธอยังจะต้องคอยอัปเดตเนื้อหาให้ทันโลกอยู่ตลอดเพราะนักเรียนจะต้องนำไปใช้ในการสอบเข้าระดับอุดมศึกษา ในขณะที่เนื้อหาของเด็กประถมต้นมีความซับซ้อนน้อยกว่าแต่เด็กสามารถเรียนรู้ได้ค่อนข้างช้า ทำให้เธอต้องปรับตัวด้วยการลดความเร็วในการสอนลงมา หันมาทำสื่อการสอนให้น่าสนใจอยู่ตลอด รวมถึงการต้องพยายามควบคุมชั้นเรียนด้วย

งานของครูที่มากกว่าการสอน

แต่ไม่ว่าเด็กทั้ง 2 วัย จากทั้ง 2 โรงเรียน จะต่างกันแค่ไหน ปัญหาที่ครูเอเจอเหมือนกันก็คือ “งานเอกสาร” ที่มากเกินความจำเป็น เธอเล่าว่ามันส่งผลให้เธอทำหน้าที่ของคนเป็นครูได้น้อยลง ในช่วงเวลาที่เธอควรจะต้องไปอัปเดตเนื้อหาการสอนหรือทำสื่อการสอนใหม่ ๆ เธอกลับต้องมานั่งทำงานเอกสารเหล่านี้

“ครูไม่ควรมานั่งเขียนเอกสารด้วยมือแล้ว”

เธอกล่าว ซึ่งผู้เขียนเองก็เห็นด้วยเพราะเทคโนโลยีบนโลกของเราพัฒนาไปไกลอย่างรวดเร็ว มนุษยชาติกำลังจะส่งมนุษย์ไปเหยียบพื้นผิวดวงจันทร์อีกครั้งในรอบครึ่งศตวรรษ ยังมีคนที่ต้องเขียนเอกสารด้วยมืออีกหรือ ?

หลักสูตรการเรียนการสอนที่ต้องพัฒนาให้ทันสังคม

อย่างที่ผู้เขียนพึ่งกล่าวไปว่าเทคโนโลยีบนโลกของเราพัฒนาไปไกลอย่างรวดเร็ว มีหลายอาชีพที่เริ่มถูกทิ้งไว้ข้างหลังและมีอีกหลายอาชีพที่เกิดขึ้นมาใหม่ ไม่ว่าจะเป็นอาชีพยูทูปเบอร์, นักรีวิวอาหาร, นักแข่งเกมมืออาชีพและอีกหลาย ๆ อาชีพ หลักสูตรการเรียนการสอนในโรงเรียนก็ควรจะต้องปรับตัวตามด้วยเช่นกัน

แม้ครูเอจะเป็นครูสอนวิชาวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นวิชาที่จำกัดอยู่ในหมวดวิชาการและเด็ก ๆ ทุกคนรู้ดีว่าหากอยากให้เกรดเฉลี่ยออกมาดี หนึ่งในวิชาที่จะต้องตั้งใจทำคะแนนให้ดีก็คือวิชาวิทยาศาสตร์ แต่ครูเอมองว่าหลักสูตรการเรียนการสอนตอนนี้ควรมีวิชาชีวิตให้มากกว่าเดิม ให้เด็ก ๆ ได้รู้จักวิชาชีวิตที่สำคัญอย่างวิชาการเงิน ได้รู้จักอีกหลาย ๆ อาชีพที่ไม่ถูกจำกัดไว้แค่หมอ, ครู หรือข้าราชการ

โดยหากปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอนได้ตามปรารถนา เธอก็อยากจะเพิ่มการฝึกปฏิบัติจริงเข้ามา อย่างการสร้างสถานการณ์จำลองเพื่อให้เด็กวัยประถมหัดนำองค์ความรู้และวิชาที่เรียนมาใช้แก้ปัญหาในสถานการณ์นั้น ๆ และการส่งเด็กวัยมัธยมเข้าไปอยู่ในสถานการณ์จริง เช่น ส่งไปฝึกงานในโรงงาน เพื่อให้เด็ก ๆ ได้นำความรู้ที่เรียนมาใช้และช่วยให้พวกเขาค้นหางานที่เหมาะกับตนเองด้วย

เรียนไม่เก่งก็ไม่เป็นไร

แน่นอนว่าคนเรามักมีสิ่งที่พยายามแล้วแต่ก็ทำได้ไม่เก่ง ครูเอเล่าว่านักเรียนของเธอไม่จำเป็นต้องเรียนวิชาวิทยาศาสตร์เก่งและมันไม่ได้หมายความว่าพวกเขาเป็นคนไม่เก่งหรือไม่ได้เรื่อง มันเป็นเพียงสิ่งหนึ่งที่พวกเขาไม่ถนัดเท่านั้น กลับกันเธอปรารถนาอยากให้พวกเขาค้นพบสิ่งที่พวกเขาถนัดและได้เจอสิ่งที่ชอบเสียด้วยซ้ำ

ถึงจะเป็นครูแต่ก็ไม่ได้อยากอยู่ฝ่ายตรงกันข้ามกับนักเรียน เธออยากเป็นพวกเดียวกันกับนักเรียนและถูกมองเห็นในฐานะมนุษย์ไม่ต่างจากอาชีพอื่น ๆ ท่ามกลางค่านิยมที่ครูต้องเป็นแบบอย่างที่ดี คำว่าแบบอย่างที่ดีกลับถูกกำหนดขึ้นมาจากคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งมองว่าการสักเป็นเรื่องไม่ดี, การใส่ชุดว่ายน้ำเป็นเรื่องไม่สมควร, การเจาะหูเป็นเรื่องผิดระเบียบและอีกหลายมาตรฐานที่ห่างจากโลกแห่งความเป็นจริง ทำให้ชีวิตส่วนตัวของครูรุ่นใหม่ถูกนำมาตัดสินและวิพากษ์แม้พวกเขาจะทำหน้าที่ครูได้อย่างดีเยี่ยมไม่บกพร่อง 

“เด็กสามารถคิดเองได้ เราควรสอนให้เด็กรู้จักการแยกแยะ ไม่ใช่การจำกัดอิสระของเด็ก” ครูเอกล่าว

เธอมองว่าจุดเด่นของเด็กไทยในปัจจุบันคือความกล้าแสดงออก, ความเชื่อมั่นในตนเองและความสามารถในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นโลกที่ไร้พรมแดน เด็กสามารถเข้าถึงข้อมูลที่สนใจได้ง่ายและรวดเร็ว ครูเอคิดว่าสิ่งที่ผู้ใหญ่ควรทำคือการสอนให้พวกเขารู้จักแยกแยะและนำองค์ความรู้ต่าง ๆ มาใช้ในทางที่ถูกต้อง 

เด็กไทยตอนนี้จะโตไปเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้าและพวกเขาสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงในสังคมได้ทั้งดีและไม่ดี อาชีพที่สำคัญต่อการเติบโตของเด็กก็คือครู ครูเออยากเป็นครูที่รับฟัง เธอเชื่อว่าเด็กทุกคนมีความเก่งในตัวเอง เพียงแค่พวกเขายังมองไม่เห็นสิ่งเหล่านั้นในตนเอง เธออยากเป็นครูที่นำพานักเรียนไปเจอกับความเก่งของตนเอง

เธอเล่าว่ามีครั้งหนึ่งเด็กนักเรียนของเธอบอกกับเธอว่าเขาอยากโตไปเป็นนักบินอวกาศ เธอสังเกตว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่มีการเรียนเกี่ยวกับดาราศาสตร์และอวกาศ เด็กคนนี้จะให้ความสนใจเป็นพิเศษ เธอจึงแนะนำเว็บไซต์ที่จะช่วยให้เขาเข้าถึงเรื่องที่เขาสนใจได้ไป มันอาจเป็นเรื่องที่เล็กน้อยมาก ๆ แต่ผู้เขียนเชื่อว่าหากเด็กคนนี้ได้เป็นนักบินอวกาศจริง ๆ เขาจะมองกลับมายังจุดนี้ในชีวิตและรู้สึกขอบคุณเธอเป็นแน่

ครูเอเป็นครูที่เล่าถึงอาชีพในอุดมคติของตนเองได้อย่างมีศรัทธาและขณะที่เธอเล่าถึงเด็กนักเรียนในชั้นเรียนของเธอ น้ำเสียงของเธอก็เต็มไปด้วยความเชื่อมั่น คงเป็นเรื่องน่าเสียดายหากคนที่มีจิตวิญญาณของการเป็นครูต้องมาละเลิกการเป็นครู เพียงเพราะระบบการทำงานในโรงเรียนที่ลืมนึกถึงจิตใจของครูในฐานะมนุษย์ อาชีพครูก็เป็นอาชีพที่เบิร์น เอาท์ได้เหมือนกัน นั่นอาจเป็นเรื่องที่ผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องและคนในสังคมต้องกลับมามอง