กลับมาดูหนังอวกาศ 5 เรื่องอีกครั้งยังเต็มไปด้วย 'คำถาม' ชีวิตจากนอกโลก - Decode
Reading Time: 2 minutes

Space for Thai

นิศาชล คำลือ

ภาพยนตร์อวกาศ 5 เรื่อง ที่จะชวนคุณตั้งคำถามผ่านตัวละครถึงเหตุผลในการมีชีวิตอยู่, ความสมเหตุสมผลของศีลธรรมในฐานะมนุษย์ รวมไปถึงความสัมพันธ์ของคุณ ไม่ว่าจะในฐานะพ่อ, แม่ หรือลูก

Gravity – ฟังเพลงสุดท้ายก่อนตาย

หากคุณกำลังลอยเคว้งคว้างอยู่ในอวกาศอย่างไร้ทิศทางและออกซิเจนสำหรับหายใจกำลังค่อย ๆ หมดลง คุณจะคิดถึงอะไรบนพื้นโลกมากที่สุด ? ครอบครัว, คนรัก, หาดทราย หรือเสียงหมาเห่าข้างทางที่คุณไม่เคยสนใจ

หากเพลงสุดท้ายที่คุณได้ยินก่อนหมดลมหายใจ คือเพลงกล่อมเด็กทารกแรกเกิดที่พึ่งลืมตาดูโลก ความน่ากลัวของความตายจะเบาบางลงบ้างหรือไม่ ?

ภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์ไซไฟระทึกขวัญที่จะชวนคุณตั้งคำถามเหล่านี้ไปพร้อมกับตัวละคร ดร.ไรอัน สโตน นักบินอวกาศหญิงผู้ต่อสู้สุดชีวิตเพื่อเดินทางกลับสู่โลก นั่นไม่ใช่เพราะเธอมีใครบางคนรอเธออยู่บนพื้นโลก ไม่ใช่เพราะว่าความตายมันน่ากลัว แต่เพราะเธอยังมีลมหายใจอยู่ เท่านั้นก็เป็นเหตุผลที่เพียงพอแล้วสำหรับการต่อสู้เพื่อมีชีวิตต่อไป

โดยตัวละคร ดร.ไรอัน สโตนอาจมีมุมมองต่อชีวิตที่เปลี่ยนไปเพราะเธอมีโอกาสได้ขึ้นไปมองมันจากอวกาศ แล้วคุณผู้อ่านคิดว่าตนเองจะมีมุมมองต่อชีวิตเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง หากมีโอกาสได้ไปมองชีวิตจากข้างบนนั้น

Stowaway – มองความผิดพลาดที่จะไม่เกิดขึ้นในชีวิตจริง

สำหรับใครที่มีความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และอวกาศอยู่แล้ว การดูภาพยนตร์เรื่องกราวิตี้จะไม่ทำให้คุณหงุดหงิด แต่หากคุณมาดูภาพยนตร์เรื่องสโตว์อะเวย์ อย่างแรกคุณต้องละทิ้งความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และอวกาศที่มีอยู่ รวมถึงวินัยในการทำงานขององค์กรด้านอวกาศด้วย

ในภาพยนตร์เรื่องนี้จะพูดถึงข้อผิดพลาดแบบที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นเลยในชีวิตจริง รวมถึงความประมาทเลินเล่อของหน่วยงานอวกาศในเรื่องที่พยายามยัดนักบินอวกาศเพิ่มเข้าไปอีก 1 คน บนยานอวกาศที่สามารถรองรับนักบินอวกาศได้แค่ 2 คน แล้วยังเกิดอุบัติเหตุวิศวกรติดมากับยานอวกาศอีก ทำให้บนยานอวกาศที่ควรจะมีมนุษย์แค่ 2 คน กลับมีมนุษย์ถึง 4 คน

เมื่อทรัพยากรบนยานอวกาศไม่เพียงพอที่จะหล่อเลี้ยงทุกชีวิต แต่พวกเขากลับไม่เลือกโยนใครสักคนออกจากยานอวกาศ และพยายามหาทางออกร่วมกันจนถึงที่สุด ในมุมหนึ่งทางเลือกที่ตัวละครเลือกอาจดูงี่เง่าสุด ๆ เพราะการจับใครสักคนโยนออกไปนอกยานคงเป็นทางออกที่ง่ายกว่า แต่ในอีกมุมหนึ่งทางเลือกของพวกเขาคือการแสดงออกถึงศีลธรรมในฐานะมนุษย์ที่พยายามรักษาทุกชีวิตเอาไว้จนถึงที่สุด

Martian – รู้จักความโดดเดี่ยวอย่างบ้าคลั่ง

อ่าว…ถูกทิ้ง ! นี่อาจเป็นความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาหากคุณเป็นตัวละครที่ตื่นขึ้นมาบนดาวอังคารหลังถูกพายุถล่มและพบว่าเพื่อนนักบินอวกาศคนอื่น ๆ เดินทางกลับโลกกันไปหมดแล้ว

500 กว่าวัน ที่ตัวละครเอกมาร์ค วัตนีย์ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวบนดาวอังคารจะนำเสนอความเจ๋งในการเอาตัวรอดของตัวละครไปพร้อม ๆ กับอารมณ์ขันแบบตลกร้าย ไม่เพียงเท่านั้น ในภาพยนตร์ยังนำเสนอมุมมองการทำงานจากทีมภาคพื้นดินด้วย

แน่นอนว่าการอยู่คนเดียวนานถึง 500 กว่าวัน เป็นเวลานานมากพอที่จะทำให้คน ๆ นึงเป็นบ้า และในบางครั้งทุกอย่างก็เป็นใจให้เขายอมแพ้ คงไม่ต่างจากชีวิตของพวกเราทุกคนที่ในบางวันทุกอย่างก็ดูเป็นใจให้เรายอมแพ้ไปเสียหมด เจ้านายด่า, รถเมล์มาไม่ตรงเวลา แล้วฝนดันมาตกอีก แต่วิธีรับมือที่ดีที่สุดคือการมีสติ ค่อย ๆ แก้ไปทีละปัญหา ในตอนสุดท้ายคุณอาจพ่ายแพ้หรือชนะ ไม่มีใครบอกได้ แต่นั่นก็คุ้มที่จะเสี่ยงแล้วไม่ใช่หรือ ?

Interstella – เพียงเพราะ…รัก

กฏข้อที่ 3 ของนิวตัน “ทางเดียวที่มนุษย์จะไปข้างหน้า คือต้องทิ้งบางอย่างไว้ข้างหลัง”

เมื่อโลกกำลังจะตาย และทางเดียวที่เผ่าพันธุ์มนุษย์จะคงอยู่ต่อไปได้คือการละทิ้งโลกและตามหาดาวดวงใหม่ ตัวละครคูเปอร์จึงตัดสินใจละทิ้งเวลาหลายปีที่เขาอาจได้ใช้ร่วมกับลูกชายและลูกสาวเพื่อเดินทางตามหาโลกใบใหม่

เสี่ยงชีวิตเดินทางในอวกาศ, สำรวจดาวที่ไม่รู้จัก, ขับยานอวกาศเข้าหลุมดำ หรือแม้กระทั่งท่องไปในมิติของเวลา ไม่น่าเชื่อว่าตัวละครคูเปอร์ทำทั้งหมดไปเพื่อความรักและสัญญา ความรักที่มีต่อลูก ๆ และสัญญาที่ว่าเขาจะกลับไป

แต่ก็คงไม่ใช่เรื่องน่าเหลือเชื่ออะไร เพราะมนุษย์เราทุกวันนี้ต่างก็ทำเรื่องน่าเหลือเชื่อเพื่อความรักกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นความรักในรูปแบบไหน แล้วคุณล่ะเคยทำอะไรเพื่อความรักบ้าง ?

Ad Astra – ถ้าต้องกลายเป็นพ่อแม่ของใครสักคน

บางครั้งความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ลูกก็ไม่ได้สวยงามเสมอไป เหมือนกับความสัมพันธ์ของตัวละครรอย แมคไบรต์ นักบินอวกาศหนุ่มผู้มีพ่อเป็นนักบินอวกาศที่ยอดเยี่ยมที่สุด

ในการเดินทางอันยาวนานบนอวกาศเพื่อตามหาพ่อของเขา ความรู้สึกมากมายที่เคยกดทับไว้เริ่มแผ่กระจายไปทั่วจิตใจและเริ่มกลายเป็นความกลัว

ความกลัวที่ว่าเขากำลังจะกลายเป็นพ่อของเขา

พ่อที่ละทิ้งลูกชายและใช้เวลาชีวิตที่เหลือเดินทางในอวกาศเพื่อตามหาสิ่งมีชีวิตนอกโลก พ่อที่ไม่เคยใยดีลูกชายและภรรยา พ่อที่ไม่เคยคิดถึงบ้าน

“พ่อเห็นแต่สิ่งที่ไม่มีอยู่จริง โดยไม่เห็นสิ่งที่มีตรงหน้า”

เมื่อชายหนุ่มที่โตมาโดยปราศจากพ่อและมีความทรงจำเกี่ยวกับพ่ออยู่อย่างเลือนรางต้องกลับมาเผชิญหน้าพ่ออีกครั้ง เขาจะปล่อยให้พ่อจากเขาไปอีกครั้งเพื่อทำตามเป้าของชีวิต หรือจะเหนี่ยวรั้งพ่อไว้สุดแรงเหมือนเด็กชายตัวน้อยติดพ่อ หากเป็นคุณจะเลือกสิ่งไหน ?

แล้วหากคุณกลายเป็นพ่อแม่ของใครสักคน สิ่งสำคัญคือโลกที่คุณยังพิชิตไม่สำเร็จ หรือลูกที่มีคุณเป็นโลกทั้งใบ ?

ในความเป็นจริงมีนักบินอวกาศจำนวนไม่น้อยที่การขึ้นสู่อวกาศได้เปลี่ยนมุมมองต่อชีวิตของพวกเขาไปตลอดกาล นักวิทยาศาสตร์เรียกสิ่งนั้นว่าโอเวอร์วิว เอฟเฟคเป็นกลไกของจิตใจที่เกิดการตระหนักรู้แบบใหม่เมื่ออยู่ในอวกาศ

ภาพยนตร์ 5 เรื่อง นี้อาจไม่ได้สร้างโอเวอร์วิว เอฟเฟคเหมือนที่เกิดขึ้นกับนักบินอวกาศ แต่หากคุณตั้งใจชมให้ดี ผู้เขียนเชื่อว่าภาพยนตร์จะให้มุมมองใหม่กับคุณไม่ว่าในแง่ใดแง่หนึ่งก็ตาม